เดนมาร์กออกมายอมรับว่าได้ละเลยการป้องกันกรีนแลนด์ เกาะขนาดใหญ่ในแถบอาร์กติกที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ มาเป็นเวลานาน หลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า การได้มาซึ่งดินแดนของเดนมาร์กแห่งนี้เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ
ทรัมป์ ซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค.นี้ กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า สหรัฐฯ จำเป็นต้องควบคุมกรีนแลนด์ และไม่ได้ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่จะใช้มาตรการทางทหารหรือทางเศรษฐกิจ เช่น การขึ้นภาษีนำเข้ากับเดนมาร์ก เพื่อให้ได้มาซึ่งเกาะดังกล่าว
“เราละเลยการลงทุนในกองเรือและฝูงบินที่จำเป็นสำหรับการเฝ้าระวังราชอาณาจักรของเรามาหลายปี และตอนนี้เรากำลังพยายามเร่งแก้ไขสถานการณ์นี้” โทรเอลส์ ลุนด์ พาวล์เซน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเดนมาร์ก กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (9 ม.ค.)
อย่างไรก็ตาม สถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงโคเปนเฮเกน แถลงก่อนหน้านี้ในวันเดียวกันว่า สหรัฐฯ ไม่มีแผนที่จะเพิ่มกำลังทหารในกรีนแลนด์
“ไม่มีแผนการที่จะเพิ่มกำลังทหารของสหรัฐฯ ในกรีนแลนด์ เราจะยังคงทำงานร่วมกับโคเปนเฮเกนและนุก (เมืองหลวงของกรีนแลนด์) อย่างใกล้ชิดต่อไป เพื่อให้แน่ใจว่าข้อเสนอใด ๆ ก็ตามนั้น ตอบสนองความต้องการด้านความมั่นคงของทั้งสองฝ่าย” โฆษกสถานทูตเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์
อนึ่ง กรีนแลนด์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนาโต (NATO) ผ่านทางเดนมาร์กนั้น มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ต่อกองทัพสหรัฐฯ และระบบเตือนภัยขีปนาวุธล่วงหน้า เนื่องจากเป็นเส้นทางที่สั้นที่สุดจากยุโรปไปยังอเมริกาเหนือ
เยนส์ เวนเซล นักวิเคราะห์จาก Nordic Defence Analysis กล่าวกับรอยเตอร์ว่า “ผมคิดว่าชาวอเมริกันค่อนข้างกังวลว่า รัสเซียอาจเปิดฉากโจมตีครั้งใหญ่ต่อสหรัฐฯ ซึ่งอาจจะเริ่มจากทางฝั่งรัสเซีย”
“ไม่มีการตรวจสอบน่านฟ้าในกรีนแลนด์อย่างจริงจัง พื้นที่ส่วนใหญ่นั้น ใครจะทำอะไรก็ได้” เวนเซลกล่าว
ด้านนายกรัฐมนตรีเมตเต เฟรเดอริกเซน แห่งเดนมาร์ก กล่าวในช่วงค่ำของวันพฤหัสบดีว่า เธอได้ขอเข้าพบกับทรัมป์แล้ว แต่ไม่คาดว่าจะได้พบก่อนพิธีเข้ารับตำแหน่ง
นายกฯ เฟรเดอริกเซนกล่าวในสัปดาห์นี้ว่า เธอไม่คิดว่าสหรัฐฯ จะใช้กำลังทหารเข้าแทรกแซงในกรีนแลนด์ และชาวกรีนแลนด์เท่านั้นที่จะเป็นผู้ตัดสินใจในเรื่องอนาคตของตัวเอง
เมื่อวันพฤหัสบดี นายกฯ เฟรเดอริกเซนได้เรียกประชุมผู้นำพรรคการเมืองต่าง ๆ ของเดนมาร์ก เพื่อรับฟังข้อมูลเกี่ยวกับการที่ทรัมป์กลับมาให้ความสนใจในเกาะกรีนแลนด์อีกครั้ง ทั้งนี้ เธอได้ปฏิเสธข้อเสนอของทรัมป์ในปี 2562 ที่ต้องการจะซื้อกรีนแลนด์
ก่อนหน้านี้ในวันพุธ (8 ม.ค.) นายกฯ เฟรเดอริกเซนได้จัดการหารือกับนายกฯ มูตซี เอเออเทอ แห่งกรีนแลนด์ โดยนายกฯ เอเออเทอสนับสนุนการแยกตัวเป็นเอกราชและยืนยันว่ากรีนแลนด์ไม่ได้มีไว้ขาย
นอกจากนี้ นายกฯ เอเออเทอยังได้หารือเรื่องการค้าและประเด็นอื่น ๆ กับเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ที่กำลังจะพ้นวาระในโคเปนเฮเกนเมื่อวันพุธ ตามที่สถานทูตสหรัฐฯ เปิดเผย
“พวกเขากำลังเดินบนเส้นด้าย” ลิน อเล็กซานดรา มอร์เทนสการ์ด ผู้เชี่ยวชาญด้านกรีนแลนด์จากสถาบันการศึกษานานาชาติเดนมาร์ก กล่าวถึงนายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศ
“ต้องรักษาสมดุลระหว่างการเป็นปากเป็นเสียงให้ดินแดนปกครองตนเองกับการเป็นตัวแทนรัฐอธิปไตย พร้อมกับต้องไม่ทำให้พันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุดของเดนมาร์กขุ่นเคือง” มอร์เทนสการ์ดกล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ม.ค. 68)
Tags: กรีนแลนด์, เดนมาร์ก, โดนัลด์ ทรัมป์