รัฐบาลอินเดียคาดการณ์เมื่อวันพฤหัสบดี (26 ธ.ค.) ว่า เศรษฐกิจอินเดียในปีงบประมาณ 2567/2568 (เม.ย. 2567 – มี.ค. 2568) จะเติบโตประมาณ 6.5% ซึ่งใกล้เคียงกับกรอบล่างของเป้าหมายที่ตั้งไว้ 6.5-7% โดยได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รายงานเศรษฐกิจประจำเดือนพ.ย.จากกระทรวงการคลังอินเดียระบุว่า แนวโน้มการเติบโตในไตรมาสต.ค.-ธ.ค.ของปี 2567 ยังคงสดใส อุปสงค์ในภาคชนบทยังคงแข็งแกร่ง ขณะที่อุปสงค์ในเขตเมืองเริ่มฟื้นตัวในช่วง 2 เดือนแรกของไตรมาสดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม การเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาสก.ค.-ก.ย. ชะลอตัวลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ สาเหตุหลักมาจากภาคการผลิตและการบริโภคที่อ่อนแอลง ถึงกระนั้น อินเดียยังคงมั่นใจว่าเศรษฐกิจจะเติบโตในระดับแนวหน้าของโลกที่ 6.5-7% แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายหลายประการ
รายงานยังชี้ว่า แนวโน้มเศรษฐกิจในช่วงครึ่งหลังของปีงบประมาณ (ต.ค. 2567 – มี.ค. 2568) น่าจะดีกว่าครึ่งแรก
“การดำเนินนโยบายการเงินควบคู่ไปกับมาตรการดูแลเสถียรภาพระบบการเงินของธนาคารกลางอินเดีย อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้อุปสงค์ชะลอตัวลง” รายงานระบุ
ทั้งนี้ ธนาคารกลางอินเดียคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้เท่าเดิมต่อเนื่องกันเป็นครั้งที่ 11 แม้จะมีเสียงเรียกร้องให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง
สำหรับปีงบประมาณถัดไป (เริ่มต้น 1 เม.ย. 2569) รายงานระบุว่า มีความเสี่ยงใหม่ ๆ เกิดขึ้น เช่น ความไม่แน่นอนของการค้าโลก และการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังขู่จะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากหลายประเทศ รวมถึงอินเดีย ซึ่งอาจนำไปสู่สงครามการค้าหลังจากที่เขาเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 ม.ค.นี้ การชนะการเลือกตั้งของทรัมป์ยังส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม รายงานของกระทรวงการคลังอินเดียยังคงมองว่า แนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจอินเดียในปี 2568/2569 และปีต่อ ๆ ไปนั้นยังคงสดใส เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจภายในประเทศที่แข็งแกร่ง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ธ.ค. 67)
Tags: อินเดีย, เศรษฐกิจอินเดีย