เที่ยวไทยคึกคัก!! นทท.ต่างชาติแตะ 34.3 ล้านคน ใกล้เป้า หลังสัปดาห์ที่ผ่านมาสูงสุดในรอบปี

นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ในปี 67 ระหว่างวันที่ 1 ม.ค.-22 ธ.ค. ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยกว่า 34,378,323 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 1,616,634 ล้านบาท โดยจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน 6,581,141 คน มาเลเซีย 4,800,185 คน อินเดีย 2,061,303 คน เกาหลีใต้ 1,815,170 คน และรัสเซีย 1,659,686 คน

ในขณะที่นักท่องเที่ยวชาวไทยเที่ยวไทยในปี 67 คาดว่าจะมีจำนวน 193.47 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวชาวไทยเที่ยวไทยแล้วประมาณ 931,876 ล้านบาท

สำหรับช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (16-22 ธ.ค.) นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น 14.75% และเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.พ. 67 ที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามากว่า 8 แสนคนต่อสัปดาห์ โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะไกล (Long haul) เดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น 21.28% จากการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มตลาด โดยเฉพาะกลุ่มตลาดหลัก อาทิ สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และเยอรมนี

ในส่วนของนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะใกล้ (Short haul) เดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น 11.04% จากการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดหลักเช่นกัน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียที่เดินทางเข้ามาแตะระดับ 1 แสนคนครั้งแรกในรอบ 6 สัปดาห์ ทั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวจากเหตุอุทกภัย ในอำเภอหาดใหญ่ และภาคใต้ตอนล่าง

ดังนั้น ส่งผลให้ภาพรวมในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 886,472 คน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 113,919 คน หรือ 14.75% คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เดินทางเข้าประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 126,639 คน โดย 5 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้แก่ จีน 131,744 คน มาเลเซีย 119,849 คน รัสเซีย 56,591 คน อินเดีย 52,260 คน และเกาหลีใต้ 47,670 คน

นายสรวงศ์ กล่าวว่า ความสำเร็จนี้เป็นผลจากนโยบาย Ease of Traveling ที่รัฐบาลและกระทรวงฯ ดำเนินการ เช่น มาตรการ Visa-Free สำหรับ 90 ประเทศ การขยายเวลาพำนักจาก 30 วันเป็น 60 วัน และการพัฒนาระบบขอวีซ่าออนไลน์ ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม ตั้งแต่กลุ่มธุรกิจ (MICE) ไปจนถึงกลุ่มชาวต่างชาติที่ทำงานทางไกล (Digital Nomad)

นอกจากนี้ กระทรวงฯ ยังได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในทุกฤดูกาล เช่น โครงการ Amazing Thailand 365 วัน มหัศจรรย์เมืองน่าเที่ยว ซึ่งเน้นกระจายรายได้ไปสู่เมืองรอง และเทศกาลฤดูหนาว “7 Wonders of Thailand” ที่มุ่งสร้างกระแสเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมวัฒนธรรม เช่น เทศกาลลอยกระทง เทศกาลอาหารพื้นบ้าน และมหกรรมดนตรีระดับโลก

*การพัฒนากีฬา “กรีนซีเกมส์”

ด้านกีฬา ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพการแข่งขันซีเกมส์ปี 2568 ใน 3 จังหวัด คือกรุงเทพ ชลบุรี และสงขลา โดยมุ่งเน้นจัดงานในรูปแบบ “กรีนซีเกมส์” ซึ่งเป็นซีเกมส์ที่เน้นความยั่งยืน ลดการปล่อยคาร์บอน และแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม

นายสรวงศ์ กล่าวว่า เป้าหมายสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและกีฬาในปี 2568 ภายใต้แนวคิด “Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025” โดยตั้งเป้าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวรวมกว่า 3.5 ล้านล้านบาท พร้อมผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและกีฬาระดับโลกอย่างยั่งยืน

“การท่องเที่ยวเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยแบรนด์ Amazing Thailand ได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยมายาวนานกว่า 30 ปี อย่างไรก็ตาม กระทรวงฯ ยังคงต้องปรับตัวให้ทันกับพฤติกรรมการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลง เช่น การเดินทางด้วยตัวเองและการท่องเที่ยวแบบครอบครัว รวมถึงการเติบโตของที่พักแบบโฮมสเตย์และแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ยังอยู่นอกระบบ เพื่อแก้ไขปัญหานี้ กระทรวงฯ กำลังเร่งปรับโครงสร้างกฎหมาย พร้อมส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจอย่างถูกต้อง และได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ” นายสรวงศ์ กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ธ.ค. 67)

Tags: ,