พลเรือเอก ซามูเอล ปาปาโร หัวหน้ากองบัญชาการอินโด-แปซิฟิกของสหรัฐฯ กล่าวในการแถลงข่าวว่า สหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะสานต่อนโยบายการมีส่วนร่วมในการดำเนินงานและกิจกรรมกับกองทัพเวียดนามต่อไป เมื่อคณะบริหารของโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ามาบริหารประเทศ
ปาปาโร กล่าว ณ งานนิทรรศการกลาโหมที่กรุงฮานอยของเวียดนามว่า “มุมมองด้านนโยบายเกี่ยวกับอินโด-แปซิฟิกที่อิสระและเสรีและเปิดกว้างของรัฐบาลชุดก่อนหน้าและรัฐบาลชุดปัจจุบันมีความแตกต่างกันน้อยมาก”
“ผมว่าเราควรดำเนินนโยบายต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดำเนินงานและกิจกรรมทางการทหาร ซึ่งควรแสดงถึงความต่อเนื่องในความสัมพันธ์” ปาปาโรกล่าว
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า สหรัฐฯ นำเครื่องบินจู่โจม A-10 Thunderbolt II และเครื่องบินขนส่งทางทหาร C-130J Super Hercules ไปจัดแสดงที่นิทรรศการกลาโหมระยะเวลา 4 วัน ของเวียดนาม ซึ่งมีตัวแทนจาก 49 ประเทศมาเข้าร่วมด้วย
มาร์ค แนปเปอร์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำเวียดนาม กล่าวว่า “เราหวังจะให้บริษัทกลาโหมชั้นยอดต่าง ๆ มาทำงานที่นี่ ทำงานร่วมกับเวียดนาม โดยมีเวียดนามเป็นคู่ค้าในด้านต่าง ๆ เช่นการผลิตร่วมกัน” และการถ่ายโอนเทคโนโลยี
ด้านนายกรัฐมนตรี ฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ ของเวียดนามระบุว่า เวียดนามมีเป้าหมายที่จะเสริมสร้างความร่วมมือและการพัฒนาในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและกลาโหม เพื่อสร้างความไว้วางใจให้เกิดสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค เวียดนามมุ่งมั่นที่จะสร้างนโยบายต่างประเทศแบบพึ่งตนเองและสร้างความหลากหลายของความสัมพันธ์
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ธ.ค. 67)
Tags: สหรัฐ, เวียดนาม, โดนัลด์ ทรัมป์