นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติให้ บริษัท โททาล เอนเนอร์ยี่ส์ อีพี ไทยแลนด์ จำกัด โอนสิทธิประโยชน์ และพันธะ ที่ถือครองอยู่ในสัดส่วน 33.33% ในสัมปทานปิโตรเลียมเลขที่ 3/2549/71 แปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทย หมายเลข G12/48 ให้แก่ บริษัท ปตท.สผ. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
ทั้งนี้ กระทรวงพลังงาน ได้เสนออนุมัติการโอนสัมปทานปิโตรเลียม เลขที่ 3/2549/71 แปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทย หมายเลข G12/48 ตามที่ บริษัท โททาล เอนเนอร์ยี่ส์ อีพี ไทยแลนด์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ร่วมถือสิทธิประโยชน์ และพันธะในสัมปทานดังกล่าวในปัจจุบัน ได้แจ้งความประสงค์ขอโอนสิทธิประโยชน์ และพันธะในสัมปทานที่ถือครองอยู่ ในสัดส่วน 33.33% ให้แก่ บริษัท ปตท.สผ. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งเป็นผู้รับสัมปทาน และผู้ดำเนินงานในแปลงสำรวจดังกล่าวอยู่แล้ว (ถือครองสิทธิประโยชน์ และพันธะ ในสัดส่วน 66.67%)
อย่างไรก็ดี เมื่อการโอนสัมปทานในครั้งนี้เรียบร้อยแล้ว จะมีผลทำให้ บริษัท ปตท.สผ. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เป็นผู้รับสัมปทาน และผู้ดำเนินงานเพียงรายเดียวของสัมปทานนี้
นอกจากนี้ ครม. ยังมีมติอนุมัติให้ เมดโค เอนเนอร์จี ไทยแลนด์ (บัวหลวง) ลิมิเต็ด และเมดโค เอนเนอร์จี ไทยแลนด์ (อีแอนด์พี) ลิมิเต็ด ต่อระยะเวลาผลิตปิโตรเลียมสำหรับสัมปทานปิโตรเลียมเลขที่ 3/2539/50 แปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข B8/38 ออกไปอีก 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม 2568 ถึงวันที่ 23 ตุลาคม 2578
รวมทั้งมีมติอนุมัติให้บริษัท พลังโสภณ จำกัด โอนสิทธิ ประโยชน์ และพันธะ ที่ถือครองอยู่ในสัดส่วน 11% ในสัมปทานปิโตรเลียม เลขที่ 8/2549/76 แปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข G10/48 ให้แก่บริษัท แวลูร่า เอ็นเนอร์ยี่ (ประเทศไทย)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ธ.ค. 67)
Tags: ครม., จิรายุ ห่วงทรัพย์, ปตท.สผ., พลังงาน, สัมปทานปิโตรเลียม, สำนักนายกรัฐมนตรี, อ่าวไทย