รัฐบาลจีนได้จัดประชุมคณะทำงานว่าด้วยเรื่องเศรษฐกิจของจีน หรือ Central Economic Work Conference ในวันพุธและวันพฤหัสบดี (11-12 ธ.ค.) โดยที่ประชุมส่งสัญญาณว่าจะเพิ่มการกู้ยืมและการใช้จ่ายของภาครัฐในปี 2568 ด้วยการปรับเปลี่ยนนโยบายให้มุ่งเน้นไปที่การบริโภค ซึ่งเป็นความพยายามที่จะแก้ไขจุดอ่อนของเศรษฐกิจ เพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากมาตรการปรับขึ้นภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกของจีน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นการประชุมดังกล่าว เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนซึ่งนำโดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ให้คำมั่นว่าจะเพิ่มเป้าหมายการขาดดุลการคลังในปีหน้า ซึ่งนับเป็นครั้งที่สองในรอบอย่างน้อย 10 ปีที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนให้ความสำคัญสูงสุดกับ “การยกระดับการอุปโภคบริโภคอย่างจริงจัง” และการกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศโดยรวม
เจ้าหน้าที่จีนยังให้คำมั่นว่าจะเสริมสร้างความแข็งแกร่งของระบบความปลอดภัยทางสังคม โดยให้คำสัญญาอย่างกว้าง ๆ ว่าจะส่งเสริมการดูแลสุขภาพและบำนาญให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น โดยที่ผ่านมานั้นบรรดานักเศรษฐศาสตร์ได้ให้การสนับสนุนโครงการเหล่านี้ เนื่องจากประชากรจีนมีอายุมากขึ้น และภาคครัวเรือนต่างพากันเก็บออมเงินไว้เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์
สื่อของทางการจีนรายงานว่า ในระหว่างการประชุมครั้งนี้ ปธน.สี จิ้นผิง ได้เรียกร้องให้มีการใช้นโยบายด้านการคลังเชิงรุก รวมทั้งเพิ่มการขาดดุลงบประมาณ และออกพันธบัตรที่มีอายุการไถ่ถอนที่ยาวนานขึ้นในปีหน้า พร้อมระบุว่า ที่ประชุมยังได้ยืนยันแผนการที่จีนจะใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพอประมาณ เช่น การปรับลดอัตราดอกเบี้ย
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลงในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากที่ประชุมคณะทำงานด้านเศรษฐกิจของจีนเพียงแค่นำเสนอแนวทางนโยบายอย่างกว้าง ๆ และขาดรายละเอียดที่เป็นรูปธรรมของนโยบาย โดยรายละเอียดที่เฉพาะเจาะจง เช่น การกำหนดเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจหรืองบประมาณของรัฐบาลนั้น จะมีการเปิดเผยในการประชุมประจำปีของรัฐสภาจีนในเดือนมี.ค.ปีหน้าเท่านั้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ธ.ค. 67)
Tags: จีน, รัฐบาลจีน, เศรษฐกิจจีน