“มูราตะ อิเล็กทรอนิกส์” ขยายลงทุนผลิต MLCC ในไทยเพิ่ม คาดเริ่มก่อสร้างปี 70

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ในการเดินทางไปเยือนประเทศญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 21-23 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสประชุมหารือร่วมกับผู้บริหารของบริษัท มูราตะ อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของโลก โดยได้รับทราบว่าบริษัทฯ เตรียมลงทุนเพิ่มในนิคมอุตสาหกรรมเวิลด์ลำพูน เป็นโรงงานผลิตตัวเก็บประจุแบบเซรามิกหลายชั้น (Multilayer Ceramic Capacitors: MLCC) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ระดับเรือธงของบริษัทฯ ที่ใช้เพิ่มความเสถียรในอุปกรณ์เคลื่อนที่อย่างสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ เซิร์ฟเวอร์ ดาต้าเซ็นเตอร์ ยานยนต์ และดาวเทียม ซึ่งที่ส่วนแบ่งการตลาดทั่วโลกสูงถึง 40%

เมื่อโรงงานแห่งใหม่แล้วเสร็จจะเสริมให้บริษัทฯ มีฐานการผลิต MLCC ในเมืองอู๋ซี ประเทศจีน, ประเทศสิงคโปร์ และประเทศไทย ส่วนอีก 2 แห่งในเมืองฟูกูอิ และอิซูโมะ ประเทศญี่ปุ่น โดยบริษัทฯ วางแผนขยายกำลังการผลิตปีละ 10%และในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ขยายกำลังการผลิตของ MLCC กว่า 3 เท่า เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อการเติบโตทั้งระยะกลางถึงระยะยาวที่มีความต้องการชิ้นส่วน MLCC ที่เพิ่มขึ้น ตามแนวโน้มความต้องการใช้งานของสมาร์ทโฟนที่ใช้เทคโนโลยี 5G และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ย่อส่วน อุปกรณ์ IoT ที่มากขึ้น

สำหรับบริษัท มูราตะฯ เป็นบริษัทญี่ปุ่นรายแรกที่เข้ามาลงทุนในพื้นที่จังหวัดลำพูนเมื่อ 35 ปีที่แล้ว และมีการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่องจนมีมูลค่าการลงทุน 40% ในพื้นที่ภาคเหนือ สร้างการจ้างงานกว่า 4,000 ตำแหน่ง โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริษัทฯ เลือกมาลงทุนในนิคมฯ ภาคเหนือ ได้แก่ ปัจจัยด้านแรงงานที่มีค่าแรงถูกกว่าพื้นที่อุตสาหกรรมหลักของประเทศ รวมทั้งไม่มีปัญหาแย่งชิงแรงงาน และปัจจัยด้านการขนส่ง เนื่องจากชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์มีน้ำหนักเบาจึงมีต้นทุนการขนส่งต่ำ และใช้การขนส่งทางอากาศได้

นักลงทุนญี่ปุ่นได้มาลงทุนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมของไทยเป็นอันดับหนึ่ง โดยมีจำนวนมากถึง 1,973 ราย คิดเป็นสัดส่วน 29% ของนักลงทุนทั้งหมด โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนญี่ปุ่นเป็นพิเศษ ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์และการขนส่ง อุตสาหกรรมเหล็กและผลิตภัณฑ์โลหะ อุตสาหกรรมเครื่องจักร อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า อุตสาหกรรมพลาสติกและเคมีภัณฑ์ และอุตสาหกรรมอาหารและยาง

นายสุเมธ ตั้งประเสริฐ กรรมการ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) รักษาการผู้ว่าการ กนอ. กล่าวว่า กนอ.กับบริษัทฯ ร่วมกันเปลี่ยนแปลงสภาพในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมเวิลด์ลำพูน โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน เม.ย.68 ส่วนการเปลี่ยนพื้นที่ให้เป็นเขตประกอบการเสรี และการขออนุญาตก่อสร้างอาคาร คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน เม.ย.70 โดยบริษัทฯ มีแผนขยายการลงทุน สร้างโรงงานขนาดใหญ่อีก 2 โรงงาน พื้นที่รวม 120,000 ตร.ม.เพื่อผลิตตัวเก็บประจุเซรามิคแบบหลายชั้น (MLCC) ซึ่งเป็นชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่สำคัญ โดยจะเริ่มก่อสร้างในปี 2570

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมุ่งมั่นใช้พลังงานหมุนเวียน 100% (RE100) ในโรงงานให้ได้ภายในปี 2578 ซึ่งเร็วกว่าแผนปกติที่วางไว้ในปี 2593 ส่วนเรื่องการบริหารจัดการน้ำ บริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อมสำหรับการขยายกำลังการผลิตในอนาคต ซึ่งคาดว่าจะมีการใช้น้ำเพิ่มขึ้นอย่างมากในปี 2593

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 พ.ย. 67)

Tags: ,