วิกฤตแบรนด์ลักชู ยอดลูกค้าลดฮวบ เซ่นพิษราคาพุ่งเกินเอื้อม

เบน (Bain) บริษัทให้คำปรึกษาด้านการบริหารจัดการจากสหรัฐฯ เปิดผยว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา บรรดาแบรนด์สินค้าหรูสูญเสียลูกค้าไปราว 50 ล้านคน ขณะที่ตลาดสินค้ามือสองกลับโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะในกลุ่มเครื่องประดับ เสื้อผ้า และเครื่องหนังคลาสสิก

บริษัทคาดการณ์ว่าอุปสงค์สินค้าหรูจะทรงตัวในปี 2567 หากพิจารณาจากอัตราแลกเปลี่ยนที่คงที่

หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานเมื่อวันพุธ (27 พ.ย.) ว่า นับตั้งแต่ปี 2565 บรรดาแบรนด์หรูสูญเสียฐานลูกค้าประจำไปมากกว่า 10% โดยนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่จำนวนนักชอปสินค้าหรูหดตัวลง

รายงานระบุว่า ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา แบรนด์หรูต่างพยายามดึงดูดผู้บริโภคชนชั้นกลางหน้าใหม่เพื่อเพิ่มยอดขาย ด้วยการทำให้สินค้าหรูเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ซึ่งส่งผลให้ธุรกิจเติบโตขึ้นถึง 3 เท่า

อย่างไรก็ตาม การขึ้นราคาสินค้าหรูทำให้แนวโน้มระยะยาวดังกล่าวกลับตาลปัตร โดยราคาเฉลี่ยของสินค้าหรูพุ่งสูงขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด แม้ว่าแต่ละแบรนด์จะขึ้นราคามากน้อยแตกต่างกันไปก็ตาม

“ลูกค้าบางส่วนตั้งใจถอยออกไปเองอยู่แล้วเพราะเงินเฟ้อกัดกินกำลังซื้อ แต่อีกหลายล้านรายถูกผลักออกไปเพราะราคาที่สูงเกินไป”

ข้อมูลจากเบนยังระบุด้วยว่า แบรนด์สินค้าหรูไม่เพียงมีจำนวนลูกค้าน้อยลงเท่านั้น แต่ยังขายสินค้าได้จำนวนน้อยลงอย่างมากอีกด้วย โดยคาดว่ายอดขายของอุตสาหกรรมสินค้าหรูในปีนี้จะลดลง 20-25% เมื่อเทียบกับปี 2565

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 พ.ย. 67)

Tags: