นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า ปัจจุบัน กทพ. มีโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 2 โครงการ คือ 1. โครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ด้านตะวันตก ระยะทาง 18.7 กม. แบ่งก่อสร้างงานโยธา 4 สัญญา ปัจจุบันสัญญาที่ 4 คือ สะพานคู่ขนานสะพานพระราม 9 ก่อสร้างเสร็จแล้ว โดยได้รับพระราชทานชื่อ “สะพานทศมราชัน” หรือ “สะพานพระราม 10” ซึ่งเป็นสะพานขึง ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ
สะพานพระราม 10 มีขนาด 4 ช่องจราจร (ไป/กลับ รวม 8 ช่องจราจร) จะช่วยแบ่งเบาปริมาณจราจรจากสะพานพระราม 9 ปัจจุบันที่มีกว่า 1.5-2 แสนคัน/วัน ได้เป็นอย่างมา ขณะนี้ กทพ. อยู่ระหว่างหารือร่วมกับกระทรวงคมนาคม เพื่อกำหนดวันเปิดใช้สะพานพระราม 10 อย่างเป็นทางการ โดยคาดว่าเร็วสุดคือปลายเดือนธ.ค.67 ต้อนรับการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ หรืออย่างช้าต้นเดือนม.ค.68
ส่วนทางด่วนสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกฯ จะเปิดให้บริการตลอดสายได้ภายในปี 2568
“หลังจากเปิดใช้ทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกฯ ตลอดสายแล้ว กทพ.เตรียมแผนที่จะปิดซ่อมบำรุงสะพานพระราม 9 ครั้งใหญ่ ซึ่งเดิมเคยประมาณการค่าซ่อมบำรุงไว้ที่ 1,000 ล้านบาท แต่ได้หารือกับทีมวิศวกร เพื่อหาแนวทางที่จะจะช่วยลดค่าใช้จ่ายลง เพื่อประหยัดงบประมาณ” ผู้ว่าฯ กทพ. กล่าว
2. โครงการทางพิเศษสายฉลองรัชส่วนต่อขยาย (ช่วงจตุโชติ-ลำลูกกา) ระยะทาง 16.21 กม. มูลค่าสัญญา 18,699.93 ล้านบาท ซึ่งกทพ. ได้ลงนามสัญญาก่อสร้าง กับ บมจ. อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) เมื่อเดือนส.ค. 67 แต่ขณะนี้ยังไม่ได้เริ่มก่อสร้าง เนื่องจากต้องรอให้ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) และมีพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาก่อน ซึ่งคาดว่าจะเสนอ ครม.ได้เร็ว ๆ นี้ จากนั้นจะเร่งรัดการก่อสร้างภายใน 3 ปี โดยจะแล้วเสร็จภายในปี 2571
นอกจากนี้ ยังมีโครงการสำคัญในเขตเมืองที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ได้แก่ โครงการทางยกระระดับชั้นที่ 2 (ช่วงงามวงศ์วาน-พระราม 9) โครงการทางพิเศษสายฉลองรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ด้านตะวันออก และโครงการทางพิเศษสายศรีนครินทร์-ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และยังมีแผนการขยายเส้นทางทางพิเศษไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ได้แก่ โครงการทางพิเศษจังหวัดภูเก็ต ระยะที่ 1 (ช่วงกะทู้-ป่าตอง) และระยะที่ 1 (ช่วงเมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้) รวมทั้งอยู่ระหว่างศึกษาความเหมาะสมโครงการทางพิเศษเชื่อมเกาะสมุย จ.สุราษฏร์ธานี และโครงการทางพิเศษเชื่อมเกาะช้าง จ.ตราด
นายสุรเชษฐ์ ยังกล่าวถึงโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ส่วนทดแทน ตอน N1 (ทางพิเศษศรีรัช-ถนนงามวงศ์วาน-ถนนประเสริฐมนูกิจ) ว่า กทพ.ไม่ได้ยกเลิกโครงการ แต่เป็นการชะลอเพื่อทบทวนแก้ปัญหา เนื่องจากการก่อสร้างเป็นอุโมงค์ที่มีความลึกมาก ทำให้มีค่าก่อสร้างสูง ส่งผลกระทบทำให้ผลตอบแทนทางการเงินติดลบ ขณะที่ต้องเวนคืนที่ดินกระทบประชาชนค่อนข้างมาก ดังนั้น จึงรายงานบอร์ด กทพ.และกระทรวงคมนาคม เพื่อขอทบทวนรูปแบบก่อสร้าง เพื่อลดผลกระทบการเวนคืน โดยยืนยันความจำเป็นของเส้นทางนี้ ภายใต้หลักการเพิ่มโครงข่ายทางด่วน เชื่อม กทม.ฝั่งตะวันตกกับตะวันออก
“ยืนยันว่าไม่ล้มโครงการ ยังเดินหน้าตามแผนเต็มที่ แต่ต้องทบทวนหาแนวทางดำเนินการอื่น เพื่อลดผลกระทบและลดค่าก่อสร้างลง ดังนั้นอาจจะไม่ใช้รูปแบบอุโมงค์ และไม่มีการปรับแนวเส้นทาง เพราะจะไปสร้างปัญหาที่จุดอื่นแทน” นายสุรเชษฐ์ กล่าว
นอกจากนี้ กทพ. ยังมีแผนจะเพิ่มรายได้เชิงพาณิชย์จากพื้นที่ในเขตทางด่วน จากปัจจุบันที่มีรายได้ประมาณ 336 ล้านบาท/ปี เพิ่มเป็น 600 ล้านบาทภายใน 4 ปี หรือเติบโต 100% โดยปัจจุบัน กทพ. มีพื้นที่รวม 2 ล้านตารางวา เป็นพื้นที่ที่สามารถจัดหาประโยชน์ได้ประมาณ 1 ล้านตารางวา ปัจจุบันมีการใช้ประโยชน์แล้ว 6 แสนตารางวา ซึ่งยอมรับว่าส่วนนี้ ยังต้องเข้าไปจัดระเบียบเพื่อทำสัญญาเช่าให้ชัดเจน ซึ่งจะทำให้รายได้เพิ่มขึ้น ส่วนอีก 4 แสนตารางวาที่เหลือ จะมีแผนพัฒนาต่อไป
อย่างไรก็ดี ในส่วนของที่ดินแปลงใหญ่ ที่จะสามารถนำออกประมูลในรูปแบบ PPP ในปี 2568 คือ โครงการการพัฒนาและบริหารจัดการที่พักริมทางในเขตทางพิเศษบริเวณบางโปรง พื้นที่ประมาณ 50 ไร่ ขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอ ครม.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 พ.ย. 67)
Tags: กทพ., สะพานพระราม 10, สุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข