นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 34.68 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าลง มาจากช่วงปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 34.75 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินในภูมิภาคทรงตัว เนื่องจากตลาดยังไม่มีปัจจัยชี้นำใหม่ที่ชัดเจน เข้ามา หลังตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมาเมื่อคืนเป็นแบบผสม วันนี้ตลาดน่าจะย่อยข่าวที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเตรียม ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดา เม็กซิโก และจีน
“เช้านี้บาทปรับตัวแข็งค่าลงมาขณะที่ค่าเงินในภูมิภาคทรงตัว วันนี้คาดว่าจะเคลื่อนไหวไปตามราคาทอง” นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 34.60 – 34.80 บาท/ดอลลาร์
ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยน อยู่ที่ระดับ 152.82 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 153.99 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0493 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0506 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.730 บาท/ดอลลาร์
- รมว.พาณิชย์ หารือคณะนักธุรกิจจากสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา-อาเซียน หรือ US-ASEAN Business Council(USABC) จำนวน 57 ราย จาก 30 บริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ได้แก่ การท่องเที่ยวอาหารและเกษตร พลังงานเทคโนโลยีสารสนเทศ สุขภาพ และการเงิน อาทิ บริษัท Amazon, Boeing, Exxon Mobil, Citi, Google, Master card, Pfizer, Philip Morris, Seagate และ Tyson ที่นำโดยเอกอัครราชทูตเท็ด โอเซียส(Ambassador Ted Osius) เพื่อมาหารือแนวทางการส่งเสริมการค้าและ การลงทุน แก้ปัญหาสิ่งที่เป็นอุปสรรคทางการค้าร่วมกันสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อธุรกิจเพื่อเพิ่มมูลค่าทางการค้า
- ททท.เร่งเครื่องบูสต์ตลาด “จีนเที่ยวไทย” แตะ 9 ล้านคน ปี 68 สร้างรายได้ 5.5 แสนล้าน เร่งฟื้นเที่ยวบินเส้นทาง ไทย-จีน ให้ได้ 90% เทียบปี 62 ก่อนโควิด นักท่องเที่ยวจีนแห่เข้าไทยสูงสุด 11 ล้านคน “สรวงศ์” นำทัพเอกชนไทยบุกเทรดโชว์ใหญ่ สุด แดนมังกร “CITM 2024” ย้ำเชื่อมั่นความปลอดภัย พร้อมแจกการบ้าน 5 สำนักงาน ททท. ดึงกลุ่มจับจ่ายสูง เฟ้นกลยุทธ์สู้กระแสจีน เที่ยวในประเทศโตแกร่ง แข่งญี่ปุ่น
- ผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ ปรับตัว ขึ้นสู่ระดับ 111.7 ในเดือนพ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 111.0 จากระดับ 109.6 ในเดือนต.ค.
- หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากบริษัท Capital Economics คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% แต่การ ตัดสินใจดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวเลขจ้างงานและเงินเฟ้อประจำเดือนพ.ย.
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีดีดตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทะลุระดับ 4.3% ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลข เศรษฐกิจและรายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (26 พ. ย.) หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ขู่ทำสงครามการค้ากับบรรดาประเทศคู่ค้าอย่างแคนาดา เม็กซิโก และจีน
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร (26 พ.ย.) เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสงครามในยูเครนและข่าวโดนัล ด์ ทรัมป์ ขู่เรียกเก็บภาษีการค้าจากเม็กซิโก แคนาดา และจีน เป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
- โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้คำมั่นว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าทุกประเภทจากเม็กซิโกและแคนาดาใน อัตรา 25% เมื่อเขาเข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในวันแรก และจะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 10% โดยระบุถึงเหตุผลเรื่อง การเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายและการค้ายาเสพติด
- นักลงทุนจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ โดยดัชนี PCE เป็นมาตร วัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคา สินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) รวมถึงยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนต.ค., ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2567 (ประมาณการครั้งที่ 2), ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (Pending Home Sales) เดือนต.ค. และ สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 พ.ย. 67)
Tags: ค่าเงินบาท, อัตราแลกเปลี่ยน, เงินบาท