เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวันอังคาร (26 พ.ย.) ว่า เครื่องบินทิ้งระเบิด B-52 สตราโตฟอร์เทรสของสหรัฐฯ จำนวน 2 ลำถูกเครื่องบินขับไล่ SU-27 ของรัสเซีย 2 ลำบินขึ้นมาสกัดกั้นเมื่อวันจันทร์ (25 พ.ย.) ใกล้แคว้นคาลินินกราด ซึ่งเป็นดินแดนของรัสเซียที่ตั้งแยกออกมาในทะเลบอลติก
เครื่องบินทิ้งระเบิดของสหรัฐฯ บินเข้าไปในบริเวณทะเลบอลติกเพื่อฝึกร่วมกับฟินแลนด์ พันธมิตรนาโตที่มีชายแดนติดกับรัสเซียยาว 1,340 กิโลเมตร ขณะที่ความตึงเครียดยังคงทวีความรุนแรงขึ้นจากการที่ชาติตะวันตกให้การสนับสนุนยูเครนในการต่อต้านการรุกรานของรัสเซีย
เหตุการณ์ที่เครื่องบินขับไล่รัสเซียบินขึ้นสกัดกั้นเครื่องบินทิ้งระเบิดสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์นี้ เกิดขึ้นหลังจากที่รัสเซียเพิ่งยิงขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงพิสัยกลางถล่มยูเครนเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว (21 พ.ย.) โดยรัสเซียอ้างว่าเป็นการตอบโต้ที่สหรัฐฯ และอังกฤษอนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธขั้นสูงของชาติตะวันตกโจมตีเข้าไปในดินแดนรัสเซีย
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ แจ้งกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า เครื่องบินทิ้งระเบิดยังคงบินตามเส้นทางที่กำหนดไว้ตามปกติ ขณะที่เครื่องบินขับไล่ Su-27 ของรัสเซียบินเข้าสกัดกั้น ซึ่งเป็นไปอย่างปลอดภัยและมืออาชีพ
เมื่อวันจันทร์ เครื่องบินทิ้งระเบิด B-52 ของสหรัฐฯ ได้ร่วมฝึกบินกับเครื่องบินขับไล่ F/A-18C ของฟินแลนด์ในน่านฟ้าฟินแลนด์
กองทัพอากาศฟินแลนด์แจ้งผ่านอีเมลถึงรอยเตอร์ว่า เครื่องบินขับไล่ของฟินแลนด์และเครื่องบินทิ้งระเบิดสหรัฐฯ ได้ทำการฝึกบินร่วมกันในน่านฟ้าฟินแลนด์เมื่อวันจันทร์ โดยเป็นส่วนหนึ่งของการเสริมสร้างขีดความสามารถในการป้องกันประเทศของฟินแลนด์
แถลงการณ์ของกองทัพอากาศฟินแลนด์ไม่ได้พูดถึงเหตุการณ์สกัดกั้นของรัสเซีย แต่ระบุว่าการฝึกครั้งนี้มีการจำลองการทิ้งระเบิดทางอากาศ เพื่อแสดงให้เห็นถึงขีดความสามารถในการทำภารกิจร่วมกัน
นอกจากนี้ ความร่วมมือดังกล่าวยังช่วยเสริมสร้างการป้องกันและป้องปรามร่วมกันของนาโตในเขตเหนือสุดด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 พ.ย. 67)
Tags: รัสเซีย, สหรัฐ, เครื่องบินขับไล่, เครื่องบินทิ้งระเบิด