นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าการเสนอรายชื่อคณะกรรมการเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล (JTC) เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร (ครม.) ในวันที่ 29 พ.ย.นี้ว่า ตอบไม่ได้ว่าจะทันเข้าสู่การประชุมครม.สัญจร ที่จังหวัดเชียงใหม่หรือไม่ ต้องดูว่ากระทรวงต่างประเทศมีความพร้อมหรือไม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างเลือกกรรมการที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่ มีหัวใจหลักคือคนที่มีความรู้ทางเทคนิค กฎหมายทะเล และการทำแผนที่ทางทะเล ซึ่งก็จะมีกรมอุทกศาสตร์ที่มีเจ้าหน้าที่ที่เข้าใจเรื่องทางทะเล และกรมสนธิสัญญาระหว่างประเทศ ที่มีนักกฎหมายจำนวนมาก
นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า จะขอไม่ให้สัมภาษณ์เรื่อง MOU อีกจนกว่าจะมีคณะกรรมการ JTC และมีความคืบหน้าที่มากกว่านี้ ไม่เช่นนั้นจะเป็นการเอาเรื่องมาทะเลาะเบาะแว้ง หรือโยนประเด็นไปมา ซึ่งไม่เกิดประโยชน์ จึงอยากให้ใจเย็น ๆ แล้วรอกระบวนการทั้งหมดจบสิ้น โดยเมื่อมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาก็จะมีการนำเสนอความเห็นต่าง ๆ นำไปร่วมพิจารณาหลังพิจารณาเสร็จแล้ว จะเป็นอย่างไรก็จะเข้าสู่เวทีสภาที่ต้องหารือ
ส่วนกรณีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ จะมาทำเนียบรัฐบาล 2 ธ.ค. นี้ เพื่อยื่นหนังสือถึงรัฐบาล ขอให้ชี้แจง MOU ไทย-กัมพูชา 2544 นายภูมิธรรม กล่าวว่า การที่จะมายื่นหนังสือที่ทำเนียบฯ ถ้าตราบใดที่ใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญตามกฎหมายก็ทำได้
ด้านนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง กล่าวว่า การยื่นหนังสือดังกล่าวเป็นเรื่องปกติธรรมดา และรัฐบาลยินดีรับฟังทุกเหตุผล แม้ที่ผ่านมานายสนธิ จะต่อว่ารัฐบาลว่ามีความเข้าใจคลาดเคลื่อนไม่ตรงกัน นั่นก็ถือว่าเป็นความคิดเห็นหนึ่ง รัฐบาลยินดีที่จะรับเรื่อง และพร้อมรับฟังทุกความเห็นที่จะมายื่น เพราะตลอดเวลาที่ตนเองทำหน้าที่มา 1-2 ปี ก็ไม่ได้มีการเลือกว่าจะรับเรื่องของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
ส่วนกรณีที่นายสนธิ ออกมาระบุว่า จะมีการปลุกม็อบลงถนนอีกครั้งนั้น นายสมคิด มองว่า นายสนธิคงไม่ได้ขู่ เพราะพูดจริง แต่หากฟังกันด้วยเหตุและผล ส่วนตัวเชื่อว่าจะรับฟังกันได้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 พ.ย. 67)
Tags: MOU 44, กระทรวงกลาโหม, กระทรวงต่างประเทศ, ครม.สัญจร, พื้นที่ทับซ้อนทางทะเล, ภูมิธรรม เวชยชัย, เชียงใหม่