นายอนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ในฐานะที่ปรึกษาการเงินการคลัง คณะกรรมการประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า แม้นว่ารายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ของสหรัฐอเมริกาในปี พ.ศ. 2567 ไทยยังคงอยู่ Tier 2 แต่มีแนวโน้มขึ้นมาอยู่ Tier 1 ได้ หากไทยขึ้นมาอยู่ Tier 1 ได้จะเกิดผลบวกต่อเศรษฐกิจและการค้าอย่างมาก การเจรจาข้อตกลงการค้าต่างๆก็จะง่ายขึ้น นอกจากนี้ไทยจะยังมีชื่อเสียงในประชาคมโลกว่าเป็นประเทศที่ยึดถือสิทธิมนุษยชนอย่างแท้จริงในทางปฏิบัติเป็นการแสดงถึงความมีมนุษยธรรมและรับผิดชอบต่อแรงงานทุกเชื้อชาติตามหลักสิทธิมนุษยชนสากล
หากประเทศไทยเดินหน้ายกระดับมาตรฐานแรงงาน ปฏิรูประบบสวัสดิการ ปฏิรูประบบประกันสังคมและจัดการกับปัญหาค้ามนุษย์อย่างจริงจัง ไทยจะก้าวสู่ระบบเศรษฐกิจที่หลอมรวมให้ทุกคนได้ผลประโยชน์จากการพัฒนาและความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ การแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์เป็นวาระแห่งชาติของไทยอยู่แล้ว
โดยหน่วยงานในทุกภาคส่วนโดยเฉพาะกระทรวงแรงงานมุ่งมั่นดำเนินการต่อต้านการค้ามนุษย์อย่างจริงจังมาอย่างต่อเนื่องเพื่อปกป้องและคุ้มครองประชาชนชาวไทยและชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยตามหลักสิทธิมนุษยชน ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ปรับปรุงกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องและพัฒนาการทำงานอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานไทย และเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนกับภาคส่วนต่าง ๆ
ทั้งภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ก้าวต่อไป คือ การปฏิรูประบบสวัสดิการแรงงาน ปฏิรูประบบประกันสังคมและรับรองอนุสัญญาสำคัญขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ เช่น ILO 87/98 สิทธิในการสมาคมและเจรจาต่อรอง , ILO 102 อนุสัญญาว่าด้วยหลักประกันสังคม (มาตรฐานขั้นต่ำ) ILO 102 กระตุ้นให้เกิดการพัฒนาระบบประกันสังคม อนุสัญญาฉบับที่ 102 มีลักษณะเฉพาะทั้งในแง่ของการกำหนดแนวคิดประกันสังคมและแนวทางที่ให้ไว้สำหรับการจัดตั้งระบบประกันสังคม อนุสัญญาดังกล่าวได้กำหนดมาตรฐานขั้นต่ำสำหรับสาขาประกันสังคมทั้ง 9 สาขา (การรักษาพยาบาล สวัสดิการเมื่อเจ็บป่วย สวัสดิการว่างงาน สวัสดิการชราภาพ สวัสดิการบาดเจ็บจากการทำงาน สวัสดิการครอบครัว สวัสดิการคลอดบุตร สวัสดิการทุพพลภาพ สวัสดิการผู้รอดชีวิต) ไว้ในเครื่องมือเดียวที่ครอบคลุมและมีผลผูกพันทางกฎหมาย และวางไว้ภายใต้หลักการของการปกครองที่ดีและยั่งยืน
นายอนุสรณ์ ในฐานะที่ปรึกษาการเงินการคลัง คณะกรรมการประกันสังคม กระทรวงแรงงาน สังคมไทยได้ให้ความสำคัญกับ”สวัสดิการ” มากขึ้นและพรรคการเมืองต่างๆต่างนำเสนอนโยบายเพิ่มสวัสดิการให้กับประชาชน กองทุนประกันสังคมและกองทุนเงินทดแทนเป็นกลไกและพื้นฐานสำคัญในการคุ้มครองทางสังคมและดูแลสิทธิประโยชน์ต่างๆให้กับผู้ใช้แรงงานและสร้างความมั่นคงในการประกอบกิจการของนายจ้างและเจ้าของกิจการ กองทุนประกันสังคมนั้นคุ้มครองและให้สิทธิประโยชน์ 7 กรณี (ไม่เนื่องจากการทำงาน) เป็นการให้สวัสดิการและคุ้มครองทางสังคมแก่ผู้ประกันตน ได้แก่ 1. กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย (เนื่องจากการทำงาน) 2. กรณีทุพพลภาพ 3. กรณีเสียชีวิต 4. กรณีคลอดบุตร 5. กรณีสงเคราะห์บุตร 6.กรณีชราภาพ 7. กรณีว่างงาน
ส่วนกองทุนเงินทดแทนนั้น คุ้มครองและให้สิทธิประโยชน์ (เนื่องจากการทำงาน) 4 กรณี ได้แก่ 1. กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย 2. กรณีสูญเสียอวัยวะ 3.กรณีทุพพลภาพ และ 4. กรณีตายหรือสูญหาย ระบบการคุ้มครองแรงงานของไทยนั้นได้มาตรฐานสากลแต่สามารถพัฒนาสิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้นได้อีกตามมาตรฐานต้นแบบของประเทศยุโรปเหนือ การกินดีอยู่ดี การได้รับความคุ้มครองในเรื่องพื้นฐานของคุณภาพชีวิตที่ดีเป็นก้าวสำคัญในการนำ “สังคมไทย” สู่ประเทศพัฒนาแล้วที่มีประชาธิปไตยทางเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง อย่างไรก็ตาม การดำเนินการต่างๆเพื่อพัฒนาสิทธิประโยชน์ต่อคำนึงความยั่งยืนของกองทุนและฐานะการเงินการคลังของประเทศด้วย
แม้นประเทศที่มีระบบประกันสังคมที่ดีที่สุดก็ยังต้องมีการปรับเปลี่ยนและปฏิรูปตลอดเวลา ไทยก็เช่นเดียวกันจำเป็นต้องเดินหน้าปฏิรูประบบประกันสังคมเพื่อความยั่งยืน พร้อมเพิ่มสิทธิประโยชน์ผู้ประกันตน แม้นใน “กฎหมายประกันสังคม”จะกำหนดให้ปฏิบัติต่อลูกจ้างเท่าเทียมกันโดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ แบ่งแยกหรือกีดกัน หรือกระทำการลำเอียงใดๆที่กระทำบนพื้นฐานของเชื้อชาติ สีผิว เพศ ศาสนา ความคิดเห็นทางการเมือง สัญชาติหรือสถานภาพทางสังคม สิ่งที่ต้องดำเนินการเพื่อคุ้มครองและจัดสวัสดิการให้ “คนทำงาน”อย่างทั่วถึง การขยายฐานสมาชิกผู้ประกันตนยังช่วยให้กองทุนประกันสังคมเข้มแข็งขึ้นอีกด้วย
คณะอนุกรรมการศึกษาและปรับปรุงเงินสมทบและพัฒนาสิทธิประโยชน์ได้เห็นชอบในหลักการในการขยายความคุ้มครองให้แก่ลูกจ้างของกิจการเพาะปลูก ประมง ป่าไม้ เลี้ยงสัตว์ซึ่งมิได้ใช้ลูกจ้างตลอดปี ขยายความคุ้มครองไปยังลูกจ้างภาคเกษตร ขยายความคุ้มครองให้แก่ลูกจ้างของนายจ้างซึ่งประกอบการค้าแผงลอย ขยายความลูกจ้างของนายจ้างที่เป็นบุคคลธรรมดา ซึ่งงานที่ลูกจ้างทำนั้นมิได้มีการประกอบธุรกิจรวมอยู่ด้วย ขยายความคุ้มครองลูกจ้างที่ทำงานบ้านในครัวเรือน
นายอนุสรณ์ คาดการณ์ว่า หากมีการแก้ไขพระราชกฤษฎีกากำหนดกิจการหรือลูกจ้างอื่นที่ไม่อยู่ในบังคับตามกฎหมายว่าด้วยการประกันสังคม จะทำให้ “ประเทศไทย” ก้าวสู่ สังคมสวัสดิการถ้วนหน้าและครอบคลุมกำลังแรงงานเกือบทั้งหมด ทำให้ “ผู้ใช้แรงงาน” มีหลักประกันในคุณภาพชีวิตที่มั่นคง
นอกจากนี้เป็นแรงงานคนไทยหรือแรงงานต่างด้าวจักได้สามารถเข้าสู่ระบบประกันสังคมได้อย่างเสมอภาคกันอันเป็นสิทธิแรงงานที่เป็นมาตรฐานขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ ขณะนี้ แรงงานข้ามชาติมากกว่า 80%-90% ขาดเครือข่ายความคุ้มครองทางสังคม
นายอนุสรณ์ กล่าวต่อว่า ความพยายามของกระทรวงแรงงานร่วมกับภาควิชาการ องค์กรลูกจ้างและองค์กรนายจ้างในขณะนี้เพื่อผลักดันให้ “ประเทศไทย”รับรองอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ILO 87 และ 98 ถือเป็นความก้าวหน้าสำคัญของระบบแรงงานไทย เนื่องจากข้อเรียกร้องให้มีการรับรอง ILO 87 และ 98 นั้นเป็นสิ่งที่ “ภาควิชาการ” และ “ขบวนการแรงงานไทย” รณรงค์ให้มีการรับรองมาหลายทศวรรษแล้ว การรับรองอนุสัญญาสองมาตรานี้เกิดประโยชน์ต่อข้อตกลงการค้าเสรีเกิดผลบวกต่อเศรษฐกิจมหภาคในระยะยาว สร้างความเข้มแข็งขบวนการแรงงาน
อีกเรื่องหนึ่ง คือการให้สัตยาบันอนุสัญญา ILO 102 เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงระบบประกันสังคมเป็นเรื่องสำคัญเพื่อรับประกันความครอบคลุมทั่วถึงของระบบประกันสังคมเสริมสร้างโครงสร้างทางกฎหมายและการสนับสนุนทางการเมืองอันเป็นบ่อเกิดของระบบประกันสังคมที่ประสิทธิภาพ ยั่งยืนและตอบสนองต่อพลวัตทางเศรษฐกิจและสังคม การดำเนินการรับรองอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ 87
การยอมรับอนุสัญญา ILO 87/98 สิทธิในการรวมตัวและสิทธิในการเจรจาต่อรองของผู้ใช้แรงงาน การให้แรงงานข้ามชาติสามารถจัดตั้งสหภาพแรงงานได้อาจเป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อน อาจต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ แต่คาดหวังว่า เมื่อมีองค์กรของแรงงานข้ามชาติหรือสหภาพแรงงานจะทำให้ปัญหาการค้าแรงงานทาสและค้ามนุษย์ (ส่วนใหญ่เป็นแรงงานข้ามชาติ) ในไทยดีขึ้นหรือไม่
อย่างไรการเปิดโอกาสให้แรงงานไทยและแรงงานข้ามชาติสามารถตั้งสหภาพแรงงานร่วมกันได้หรือสมัครเข้าเป็นสมาชิกสหภาพแรงงานเดียวกันได้(อาศัยหลักสามัคคีทุกเชื้อชาติและแรงงานเป็นพี่น้องกันทั่วโลกตามหลักภราดรภาพนิยมและนำมาสู่สันติสุขและความเป็นธรรมในสถานประกอบการ) หรือเปิดโอกาสให้มีการจัดตั้งสหภาพฯแบบทั่วไปที่สมาชิกไม่สังกัดบริษัท อาชีพ อุตสาหกรรมจะดำเนินการด้วยแนวทางไหน ก็คงต้องพิจารณาให้ครบถ้วนในทุกมิติ ทั้งมิติสิทธิมนุษยชน สิทธิแรงงานทั้งมิติความเป็นสากลและความเป็นชาติ ทั้งมิติเศรษฐกิจ ทั้งมิติความมั่นคงและการเมืองภายในประเทศ
นายอนุสรณ์ กล่าวย้ำว่า หากไทยสามารถยกระดับมาตรฐานแรงงานดังกล่าวได้ทั้งหมด ย่อมมีโอกาสที่ไทยขึ้นมาอยู่ Tier 1 เกิดผลดีการค้าการลงทุนระยะยาว สร้างระบบเศรษฐกิจและสังคมที่แบ่งปันกันมากขึ้นหากรัฐบาลชุดนี้รับรองอนุสัญญาจะเป็นผลงานชิ้นโบว์แดง รายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ประจำปี 2567 (Trafficking in Persons Report: 2024 TIP Report)ซึ่งรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ใน 188 ประเทศ/เขตเศรษฐกิจ
โดยในปีนี้ประเทศไทยได้รับการจัดระดับให้อยู่ใน Tier 2 ต่อเนื่องเป็นปีที่สาม และรายงานฯได้สะท้อนถึงพัฒนาการสำคัญที่รัฐบาลไทยและภาคส่วนต่าง ๆร่วมกันดำเนินการเพื่อป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์และปรับปรุงระบบสวัสดิการแรงงานในปีที่ผ่านมา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 พ.ย. 67)
Tags: กระทรวงการคลัง, ประกันสังคม, อนุสรณ์ ธรรมใจ, แก๊งค้ามนุษย์, แรงงาน