สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (14 พ.ย.) หลังมีรายงานว่าสต็อกน้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่นของสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง โดยข้อมูลดังกล่าวช่วยบดบังปัจจัยลบจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และแนวโน้มอุปทานน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 27 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 68.70 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 28 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 72.56 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 4.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 8 พ.ย. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 1.4 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล
อย่างไรก็ดี สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 400,000 บาร์เรล
การลดลงของสต็อกน้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่นช่วยบดบังปัจจัยลบจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ รวมทั้งการที่สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ออกรายงานเตือนเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด โดยระบุว่าอุปทานน้ำมันดิบทั่วโลกจะมากกว่าอุปสงค์ราว 1 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2568 เนื่องจากสหรัฐฯ และประเทศนอกกลุ่มโอเปกพลัสเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน
ทางด้านกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ได้ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกทั้งในปี 2567 และ 2568 เนื่องจากอุปสงค์ที่อ่อนแอลงในจีน อินเดีย และประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค โดยโอเปกได้ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน
ทั้งนี้ โอเปกคาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันโลกจะขยายตัว 1.82 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2567 ลดลงจากระดับ 1.93 ล้านบาร์เรล/วันที่มีการคาดการณ์ในเดือนต.ค. และคาดว่าอุปสงค์น้ำมันโลกจะขยายตัว 1.54 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2568 ลดลงจากระดับ 1.64 ล้านบาร์เรล/วันที่มีการคาดการณ์ในเดือนต.ค.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 พ.ย. 67)
Tags: WTI, น้ำมัน WTI, ราคาน้ำมัน