นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บ บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนของปี 67 บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 806 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 90.1% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 424 ล้านบาท โดยรายได้รวมเท่ากับ 167,132 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 149,286 ล้านบาท
ขณะที่งวดไตรมาส 3/67 มีกำไรสุทธิ 74 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 24 ล้านบาท
การเติบโตของรายได้มีปัจจัยหลักมาจากธุรกิจ Oil มีรายได้เติบโตที่ 11.0% เป็น 154,640 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านทุกช่องทางยังคงสร้างสถิติยอดขายสูงสุดใหม่ต่อเนื่องเป็น 5,013 ล้านลิตร หรือเพิ่มขึ้นถึง 13.6% คิดเป็นการจำหน่ายผ่านช่องทางค้าปลีกผ่านสถานีบริการ PT จำนวน 4,886 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 14.1% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (Same-Store Sales Growth) ยังคงเติบโตกว่า 10% เทียบจากปีก่อนหน้า ทั้งจากลูกค้าใหม่ และกลุ่มลูกค้าผู้ถือบัตรสมาชิก PT Max Card และ PT Max Card Plus
รวมถึงปัจจัยหนุนจากภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวและอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องในงวด 9 เดือนที่ผ่านมา จึงส่งผลทำให้บริษัทฯ ครองส่วนแบ่งตลาดผ่านช่องทางค้าปลีกผ่านสถานีบริการเพิ่มขึ้นเป็น 21.3% เมื่อเทียบกับ 18.7% ในปีก่อนหน้า โดยบริษัทฯ มีการขยายสถานีบริการน้ำมัน PT เพิ่มขึ้น 1.7% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน เป็น 2,214 สถานี
สำหรับธุรกิจ Non Oil งวด 9 เดือนของปี 2567 มีรายได้จำนวน 12,492 ล้านบาท เติบโต 25.8% โดยการเติบโตของยอดขายเป็นผลมาจากธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทย และธุรกิจอื่น ๆ ซึ่งกาแฟพันธุ์ไทยมีรายได้จากการขายและการบริการที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญที่ 75.1% เป็นจำนวน 1,540 ล้านบาท เป็นผลจากการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยงวด 9 เดือนมีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 1,126 สาขา เพิ่มขึ้น 48.9% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงเป้าหมายอัตราการเติบโตของยอดขายทั้งปี ในธุรกิจ Non-Oil (ไม่รวมธุรกิจ LPG) ไม่ต่ำกว่า 40-50% เมื่อเทียบปีก่อน
รวมทั้งการใช้บริการอย่างต่อเนื่องของกลุ่มลูกค้ารายเดิมและจากกลุ่มลูกค้าผู้ถือบัตรสมาชิก PT Max Card และ PT Max Card Plus ที่ส่งผลต่อการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม (Same-Store Sales Growth) ยังคงอยู่ในระดับ 20-30% รวมถึงการทำแคมเปญการตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ ยังคงวางเป้าหมายการขยายสาขาของกาแฟพันธุ์ไทยเป็น 1,282 สาขา ณ สิ้นปี ซึ่งยังคงเน้นขยายไปในพื้นที่ที่มีศักยภาพ
ในงวด 9 เดือนบริษัทฯ มีสาขาของธุรกิจ Non-Oil รวมทั้งสิ้น 1,878 สาขา (ไม่รวมสาขาธุรกิจ LPG) เพิ่มขึ้น 525 สาขา หรือเติบโต 38.8% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้รายได้จากธุรกิจ Non-Oil คิดเป็นสัดส่วน 7.5% ของรายได้ทั้งหมดซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 6.6% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
สำหรับธุรกิจอื่น ๆ ภายใต้ธุรกิจ Non-Oil บริษัทฯ ยังคงวางแผนขยายสาขาและ Touchpoints อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2567 บริษัทตั้งเป้าจำนวนสาขาธุรกิจ Non-Oil อื่น ๆ เป็นจำนวน 961 Touchpoints เพิ่มขึ้น 329 Touchpoints โดยการขยายสาขาจำนวนหลักๆ มาธุรกิจศูนย์บริการและซ่อมบำรุงรถยนต์ Autobacs สถานีอัดประจุไฟฟ้า Elex by EGAT PT และสาขาร้านสะดวกซื้อ Max Mart เป็นต้น
นายพิทักษ์ กล่าวอีกว่า แนวโน้มการเติบโตของปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านทุกช่องทาง และอุปสงค์การใช้น้ำมันในช่วงที่เหลือของปี ยังมีทิศทางที่ดี บริษัทจึงคงเป้าการเติบโตของปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านทุกช่องทางที่ 10-15% ซึ่งได้ Upgrade มาจากเป้าหมายเดิม 8-12% ช่วงต้นปี และคาดว่าจะมีสถานีบริการน้ำมันครบ 2,251 สาขาภายในปีนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 พ.ย. 67)
Tags: PTG, พิทักษ์ รัชกิจประการ, พีทีจี เอ็นเนอยี, หุ้นไทย