ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ ส่งสัญญาณวอลล์สตรีทพักฐานคืนนี้

ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวลง ส่งสัญญาณการพักฐานของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในคืนนี้ หลังจากดัชนีดาวโจนส์พุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์วานนี้

ณ เวลา 18.14 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 29 จุด หรือ 0.07% สู่ระดับ 44,412 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดวานนี้พุ่งขึ้นกว่า 300 จุด แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขานรับชัยชนะของนายโดนัลด์ ทรัมป์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

นายเจเรมี ซีเกล ศาสตราจารย์จาก Wharton School ของมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย กล่าวว่า ตลาดหุ้นจะได้รับอานิสงส์จากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ มากกว่าประธานาธิบดีในอดีต อันเนื่องจากนโยบายของนายทรัมป์ที่เอื้อต่อภาคธุรกิจ

“ว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ถือเป็นประธานาธิบดีที่หนุนตลาดหุ้นมากที่สุดเมื่อเทียบกับประธานาธิบดีที่เราเคยมีมาในประวัติศาสตร์”

“คุณทรัมป์วัดความสำเร็จในการบริหารประเทศสมัยแรกของเขาจากการดูว่าตลาดหุ้นปรับตัวดีแค่ไหน ผมมองว่ามีแนวโน้มน้อยมากที่เขาจะดำเนินนโยบายที่จะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้น” นายซีเกลกล่าวในรายการ Squawk Box ของสถานีข่าว CNBC

นอกจากนี้ นายซีเกลเชื่อว่านายทรัมป์จะนำมาตรการปรับลดอัตราภาษีของภาคเอกชนที่มีการใช้ในปี 2560 ในระหว่างการดำรงตำแหน่งสมัยแรกของเขากลับมาใช้ หลังจากเขาเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 อย่างเป็นทางการ

นักลงทุนจับตาตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ รวมทั้งถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้

กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือนต.ค.ในวันพุธนี้

ทั้งนี้ ผลการสำรวจนักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี CPI ทั่วไป (Headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.4% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก.ย.

เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี CPI ทั่วไป ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนต.ค. ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก.ย.

ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน คาดว่าปรับตัวขึ้น 3.3% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก.ย.

เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี CPI พื้นฐาน ปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนต.ค. ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก.ย.

นักลงทุนจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ซึ่งมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในสัปดาห์นี้ว่าด้วยแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ

ทั้งนี้ นายพาวเวลจะกล่าวสุนทรพจน์ดังกล่าวในงานเสวนาที่จัดขึ้นที่เมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส ในวันพฤหัสบดีที่ 14 พ.ย. เวลา 15.00 น. ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับวันศุกร์ที่ 15 พ.ย. เวลา 03.00 น.ตามเวลาไทย

ในการแถลงข่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุมนโยบายการเงินเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายพาวเวลได้แสดงความพึงพอใจต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐในขณะนี้ และยืนยันว่าเขาจะไม่ลาออกจากตำแหน่ง แม้ถูกกดดันจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ

ด้านธนาคารกลางสหรัฐ สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.5% ในไตรมาส 4/2567

ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 1.4% ในไตรมาส 1, 3.0% ในไตรมาส 2 และ 2.8% ในไตรมาส 3

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 พ.ย. 67)

Tags: , , ,