นายเอนก อยู่ยืน รองเลขาธิการ และโฆษกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ก.ล.ต.ยังคงเร่งดำเนินการเอาผิดกับผู้กระทำผิดในกรณีต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับตลาดทุน และดูแลผู้ลงทุน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย
ช่วงที่เหลือของปีนี้ ก.ล.ต. คาดว่าจะมีความชัดเจนของการกล่าวโทษออกมามากกว่า 2 เคส ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการกล่าวโทษทางแพ่งที่เกี่ยวข้องกับการสร้างราคาและการบริหารงานผิดพลาดของผู้บริหาร จากที่มีการดำเนินการตรวจสอบหลายเคส ซึ่งในสัปดาห์หน้าจะมีการออกประกาศกล่าวโทษเคสใหญ่เคสหนึ่งออกมา ขอให้รอติดตามการรายงานของ ก.ล.ต. ซึ่งยังไม่สามารถให้ข้อมูลใดๆ ได้ในตอนนี้
สำหรับงานด้านอื่น ๆ ของ ก.ล.ต. ช่วงที่ผ่านมาได้เร่งผลักดันกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) โดย ณ วันที่ 6 พ.ย. 67 มีกองทุน Thai ESG เพิ่มเป็น 34 กองทุน จากสิ้นปี 66 ที่มีจำนวน 12 กองทุน โดยเป็นกองทุนที่ขอจัดตั้งใหม่ 9 กองทุน และ 3 กองทุน เป็นกองทุนเดิมที่ขอแก้ไขโครงการเพื่อเพิ่ม Class Thai ESG (ผู้ลงทุนสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้เช่นเดียวกับกองทุน Thai ESG ที่จัดตั้งใหม่)
นอกจากนั้นยังได้เดินหน้าปรับปรุงและออกหลักเกณฑ์เพื่อรองรับการจัดตั้งและจัดการทรัสต์เพื่อการลงทุนในโครงการด้านสิ่งแวดล้อม (GIT) เพื่อสนับสนุนการลงทุนโครงการด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อกักเก็บก๊าซเรือนกระจกในกิจกรรมภาคป่าไม้หรือการเกษตร ประกอบกับส่งเสริมธุรกิจ ผู้ลงทุน หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ให้มีส่วนร่วมดูแลด้านสิ่งแวดล้อม และเป็นช่องทางในการระดมทุนในตลาดทุนแก่ธุรกิจที่มีโครงการด้านสิ่งแวดล้อมทั้งรายใหม่และรายเดิม
ขณะที่การออกตราสารหนี้กลุ่มยั่งยืน ตั้งแต่เดือน ม.ค.-ก.ย. 67 มีมูลค่าการออกไปแล้วกว่า 1.12 แสนล้านบาท ซึ่ง ก.ล.ต.ยังคงมีความตั้งใจในการขับเคลื่อนและสนับสนุนในเรื่องการสร้างความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทุกคนตระหนักถึงการสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจ สิ่งแวดล้อม และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 พ.ย. 67)
Tags: ก.ล.ต., ตลาดทุน, เอนก อยู่ยืน