นายกฯ เยอรมนีประกาศปลดรมว.คลัง เตรียมยุบสภาเลือกตั้งใหม่

นายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ ของเยอรมนี ประกาศปลดคริสเตียน ลินด์เนอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังออกจากตำแหน่ง ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่นำไปสู่การแตกแยกของพรรคการเมืองในรัฐบาลผสม รวมถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการยุบสภาจัดการเลือกตั้งใหม่ในเดือนมีนาคม

ซีเอ็นบีซีรายงานว่า รัฐบาลผสมสามพรรค ซึ่งประกอบด้วยพรรคสังคมประชาธิปไตย (SPD) ของชอลซ์ พรรคกรีน และพรรคเสรีประชาธิปไตย (FDP) ของลินด์เนอร์ บริหารประเทศร่วมกันมาได้ราว 3 ปี แต่สถานะของพรรคร่วมรัฐบาลเริ่มสั่นคลอนมาระยะหนึ่งแล้ว อันเนื่องมาจากความเห็นต่างด้านงบประมาณและนโยบายเศรษฐกิจ ทำให้เกิดความตึงเครียดและการปะทะคารมกัน

ในการแถลงซึ่งถ่ายทอดทางโทรทัศน์เมื่อช่วงค่ำวันพุธ (6 พ.ย.) ชอลซ์กล่าวโจมตีลินด์เนอร์ว่า ลินด์เนอร์ไม่สนใจประโยชน์ส่วนรวม และเขาปลดรมว.คลังออกจากตำแหน่งเพื่อป้องกันอันตรายต่อประเทศ นอกจากนี้ ชอลซ์ยังเผยด้วยว่า เขาจะขอให้มีการลงมติไม่ไว้วางใจในรัฐสภาในวันที่ 15 มกราคม พร้อมเสนอให้มีการเลือกตั้งก่อนกำหนดในเดือนมีนาคม

“ใครก็ตามที่เข้าร่วมรัฐบาลต้องทำหน้าที่อย่างมีความรับผิดชอบและเชื่อถือได้ ไม่ใช่หาที่หลบภัยเมื่อสถานการณ์เลวร้าย” นายกฯ เยอรมนีกล่าวในการแถลงข่าว ตามการรายงานของรอยเตอร์ “พวกเขาต้องมุ่งมั่นตั้งใจที่จะประนีประนอมเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนทุกคน … แต่นั่นไม่ใช่ความสนใจของคริสเตียน ลินด์เนอร์ในตอนนี้ เขาสนใจแต่พวกพ้องของตนเอง”

ทั้งพรรค FDP และพรรคกรีนยืนยันในวันเดียวกันว่า การออกจากคณะรัฐมนตรีของลินด์เนอร์จะหมายถึงการสิ้นสุดของรัฐบาลผสมที่ขัดแย้งกันมานานหลายเดือน โดยพรรค FDP ของลินด์เนอร์กล่าวว่าได้ถอนตัวออกจากรัฐบาลผสมแล้ว แม้พรรคกรีนยืนยันว่าจะยังคงอยู่ทำหน้าที่ต่อไปก็ตาม

บลูมเบิร์กรายงานว่า นายกรัฐมนตรีเยอรมนีไม่มีอำนาจประกาศยุบสภาเลือกตั้งใหม่ก่อนกำหนด โดยเป็นอำนาจของประธานาธิบดี แต่นายกฯ สามารถผลักดันให้เกิดการยุบสภาด้วยการลงมติไม่ไว้วางใจในสภาผู้แทนราษฎร เมื่อชอลซ์ไม่สามารถรวบรวมเสียงข้างมากในการลงมติไม่ไว้วางใจในวันที่ 15 มกราคม เขาก็จะสามารถขอให้ประธานาธิบดีฟรังค์-วัลเทอร์ ชไตน์ไมเออร์ ประกาศยุบสภาและจัดการเลือกตั้งใหม่ภายใน 60 วัน

สำหรับครั้งสุดท้ายที่เยอรมนียุบสภาจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนดคือในปี 2548 ในสมัยของนายกรัฐมนตรีเกอร์ฮาร์ด ชโรเดอร์ ก่อนที่เขาจะพ่ายแพ้ต่ออังเกลา แมร์เคิลในเวลาต่อมา

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 พ.ย. 67)

Tags: , ,