บริษัทเป่ยจิง อันไท่เคอ อินฟอร์เมชัน ดีเวลอปเมนต์ (Beijing Antaike Information Development Co.) คาดการณ์ว่า อุปสงค์ทองแดงของจีนจะชะลอตัวลงในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า ก่อนดีดขึ้นและระดับจุดสูงสุดภายในปี 2573 ซึ่งสวนทางกับมุมมองก่อนหน้านี้ที่ว่าความต้องการทองแดงจะยังคงขยายตัวขึ้นต่อไป
ทั้งนี้ แม้บริษัทคาดการณ์ว่า ภาคอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียนของจีน ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนมุมมองบวกต่อทองแดง จะยังคงต้องการทองแดงในปริมาณมาก แต่การชะลอตัวทางเศรษฐกิจ และการที่ผู้ซื้อเปลี่ยนไปใช้อลูมิเนียมแทน จะเป็นปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อความต้องการทองแดง
หยาง ชางหัว นักวิจัยจากอันไท่เคอ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน เปิดเผยข้อมูลคาดการณ์ในการประชุมของกลุ่มบริษัทที่เมืองอู่ฮั่นว่า ในช่วง 5 ปีข้างหน้าจนถึงปี 2573 ความต้องการทองแดงของจีนจะเติบโตในอัตราเฉลี่ย 1.1% ซึ่งลดลงจากที่เติบโต 3.9% ระหว่างปี 2563-2568 โดยเขากล่าวว่า การใช้ทองแดงในโครงการพลังงานหมุนเวียนจะลดลง เนื่องจากอุตสาหกรรมต่าง ๆ พยายามลดการใช้ทองแดง หรือหันไปหาทางเลือกอื่น ๆ
สำหรับความเสี่ยงที่อาจส่งผลต่อการคาดการณ์ที่ว่า ความต้องการทองแดงจะขึ้นไปแตะระดับสูงสุดภายในปี 2573 นั้น ได้แก่ การส่งออกภาคการผลิตของจีน หรือการย้ายโรงงานในต่างประเทศ
หยางกล่าวด้วยว่า ความต้องการทองแดงของจีนจากภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมนั้น จะเพิ่มขึ้นแตะ 3.1 ล้านตันภายในปี 2573 คิดเป็น 26% ของความต้องการทองแดงทั้งหมดของจีน ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 15% ในปี 2563
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ต.ค. 67)