เอกวาดอร์สั่งดับไฟครึ่งประเทศนาน 9 ชม. จากวิกฤตภัยแล้งครั้งประวัติศาสตร์

รัฐบาลเอกวาดอร์ประกาศระงับการจ่ายไฟเป็นเวลา 9 ชั่วโมงในวันอาทิตย์ (22 ก.ย.) ครอบคลุม 12 จังหวัดจากทั้งหมด 24 จังหวัดของประเทศ และประกาศเตือนภัยระดับสีแดงใน 19 จังหวัด เนื่องจากวิกฤตภัยแล้งส่งผลให้ระดับน้ำในโรงไฟฟ้าพลังน้ำลดลง

ทำเนียบประธานาธิบดีเอกวาดอร์ระบุในแถลงการณ์ที่เผยแพร่ผ่านทางเอ็กซ์เมื่อคืนวันเสาร์ว่า การหยุดจ่ายไฟในจังหวัดต่าง ๆ จะมีผลตั้งแต่เวลา 8.00 – 17.00 น. ของวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น นอกเหนือจากแผนการของรัฐบาลในการหยุดจ่ายไฟช่วงกลางคืนทั่วประเทศเป็นเวลา 8 ชั่วโมงตั้งแต่วันจันทร์ 23 ก.ย. ถึงวันพฤหัสบดี 25 ก.ย. ที่ประกาศไปก่อนหน้านี้

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เอกวาดอร์กำลังเผชิญกับภัยแล้งที่รุนแรงที่สุดในรอบ 61 ปี รวมทั้งวิกฤตพลังงานที่รุนแรงขึ้น ซึ่งรัฐบาลระบุว่าเป็นผลมาจากการขาดการบำรุงรักษาเขื่อนที่มีอยู่ และไม่มีการทำสัญญาเพื่อผลิตพลังงานใหม่

รัฐบาลเอกวาดอร์กล่าวว่า มาตรการระงับการจ่ายไฟเพิ่มเติมในวันอาทิตย์นั้นมีขึ้นเพื่อปกป้องทรัพยากรน้ำ และถูกนำมาใช้หลังจากการประชุมของคณะกรรมการปฏิบัติการฉุกเฉินเมื่อคืนวันเสาร์

“เรากำลังเผชิญปัญหาขาดแคลนน้ำ เหตุไฟไหม้ และความมั่นคงทางอาหารใน 19 จังหวัด” อิเนส มานซาโน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมแถลงต่อสื่อมวลชนเมื่อวันเสาร์ “หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องยอมรับและปฏิบัติตามมติที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินระดับสีแดง

ทั้งนี้ หลังจากรัฐบาลประกาศแผนตัดไฟเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (17 ก.ย.) กองทัพได้เข้าไปประจำการที่โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำมาซาร์ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานและปกป้องโรงไฟฟ้าแห่งนี้ ซึ่งมีกำลังการผลิตประมาณ 170 เมกะวัตต์ และเป็นโรงไฟฟ้าที่มีความสำคัญเนื่องจากมีการกักเก็บพลังงานสูง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ก.ย. 67)

Tags: ,