นายคิม บู-คยอม นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้เตรียมขยายมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมออกไปอีก 2 สัปดาห์ ขณะที่รัฐบาลได้พยายามเร่งสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วประเทศ หลังมีประชาชนป่วยหนักเพิ่มขึ้น
นายคิมกล่าวว่า มาตรการควบคุมโรคเป็นสิ่งสำคัญมากเพื่อหยุดยั้งการระบาด และสร้างความปลอดภัยในการกลับมาเปิดเรียนในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขได้เรียกร้องให้ใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมที่เข้มงวดขึ้น หลังพบผู้ป่วยอาการหนักมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีสาเหตุมาจากการฉีดวัคซีนที่ล่าช้า และคนวัยหนุ่มสาวที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน
ด้านนายลี ซุน-ยัง ประธานสมาคมระบาดวิทยาแห่งเกาหลีใต้เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า การทำงานด้านระบาดวิทยาเดินหน้าไปได้ยาก เนื่องจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ประกอบกับผู้คนยังเดินทางเคลื่อนย้ายแม้จะมีมาตรการออกมาก็ตาม รวมถึงการที่บุคลากรทางการแพทย์ได้รับนโยบายให้เน้นการฉีดวัคซีนแทนการติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ
นายลีระบุว่า “ต้องยอมรับว่าการระดมตรวจหาผู้สัมผัสใกล้ชิดเริ่มลดลงเนื่องจากประชาชนเดินทางกันมากขึ้น ขณะที่ยอดติดเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ก็เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการทำงานที่ทับซ้อนกันจากการฉีดวัคซีนซึ่งกระทบต่อการระดมตรวจติดตามเชิงรุก ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อที่ไม่ทราบว่ารับเชื้อมาจากที่ใดมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น”
ข้อมูลของสำนักงานควบคุมและป้องกันโรคแห่งเกาหลีใต้ (KDCA) ระบุว่า เกาหลีใต้มีอัตราการฉีดวัคซีนเข็มแรกครอบคลุม 40% ของจำนวนประชากรทั้งหมด 52 ล้านคน และมีประชาชนได้รับวัคซีนครบสองโดสแล้วอยู่ที่ 14.7% โดยเกาหลีใต้ตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้ได้ 70% ของประชากรภายในเดือนก.ย.นี้
ทั้งนี้ รัฐบาลเกาหลีใต้ได้เพิ่มความงวดในการบังคับใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมในหลายพื้นที่ของประเทศเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อเตรียมรับมือกับยอดผู้ติดเชื้อที่คาดว่าจะพุ่งสูงขึ้นในช่วงเทศกาลวันหยุดฤดูร้อน โดยรัฐบาลได้สั่งห้ามไม่ให้รวมกลุ่มเกิน 2 คนหลังเวลา 18.00 น.ในกรุงโซลและพื้นที่โดยรอบ ส่วนพื้นที่อื่นๆ นั้นห้ามรวมกลุ่มเกิน 4 คน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ส.ค. 64)
Tags: COVID-19, คิม บู-คยอม, มาตรการควบคุมโรค, ลี ซุน-ยัง, เกาหลีใต้, โควิด-19