นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ทอท. อยู่ระหว่างการทบทวนแผนแม่บทการพัฒนาขยายขีดความสามารถของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพื่อรองรับจำนวนผู้เข้าใช้บริการเพิ่มขึ้นเป็น 150 ล้านคน/ปี โดยมุ่งพัฒนาตามแผนแม่บทเดิม แต่จะปรับปรุงเพื่อเพิ่มศักยภาพให้สอดคล้องและรองรับการเดินทางในอนาคต และเป็นศูนย์กลางการบิน คาดว่าจะศึกษาภาพรวมแล้วเสร็จในเดือน ก.พ.68
หลังจากนั้นจะเป็นขั้นตอนการออกแบบรายละเอียด โดยจะมีอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ (South Terminal) ซึ่งเป็นไปตามแผนแม่บทเดิม ใช้เวลาออกแบบประมาณ 14 เดือน จากนั้นจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขออนุมัติงบประมาณดำเนินการคาดใช้เวลาประมาณ 3 เดือน เบื้องต้นเปิดประมูลได้ในต้นปี 70 ใช้เวลาก่อสร้าง 4 ปีครึ่ง และเปิดให้บริการปลายปี 74
สำหรับอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ (South Terminal) คาดวงเงินลงทุนประมาณ 1.2 แสนล้านบาท ขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 70 ล้านคนต่อปี จะมีขนาดใหญ่กว่าอาคารผู้โดยสารหลัก (Main Terminal) ในปัจจุบัน เป็นการเพิ่มการเดินทางเข้าท่าอากาศยาน ด้านทิศใต้ จากถนนถนนบางนา-ตราด และจะมีการต่อเชื่อมทางพิเศษบางนา-ชลบุรี เข้าสู่อาคารด้วยเพื่อความสะดวก
“แนวคิดในการออกแบบ อาคารผู้โดยสารด้านใต้ จะนำข้อด้อยของอาคารผู้โดยสารหลักในปัจจุบันมาปรับปรุงแก้ไข เช่น ถนนด้านหน้าอาคารหลักมีพื้นที่สำหรับรับส่งผู้โดยสารน้อย เพราะถนนหน้าอาคารมีความยาวประมาณ 400 เมตร ซึ่งน้อยเกินไป ทำให้เกิดปัญหาจราจร ดังนั้น อาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ จะออกแบบเป็นตัวยู มีขนาดใหญ่ เพื่อเพิ่มพื้นที่ด้านหน้าอาคารผู้โดยสารยาวประมาณ 2 กม. ออกแบบถนน ขนาด 4 ช่องจราจร และยังทำให้สามารถเพิ่มพื้นที่เชิงพาณิชย์ ไว้ตรงกลางของอาคารได้ รองรับกรณีที่มีการเดินทางมาถึงสนามบินก่อนเวลา มีพื้นที่พักผ่อน ช้อปปิ้ง ด้านนอกก่อนเข้าเช็คอินอีกด้วย สำหรับอาคารด้านทิศเหนือ (North Terminal) นั้น ไม่มีในแผนแม่บทตั้งแต่แรก ซึ่งทอท.จะยึดแผนงานพัฒนาขีดความสามารถสนามบินสุวรรณภูมิตามแผนแม่บทเดิม”นายกีรติกล่าว
ส่วนทางวิ่งเส้นที่ 4 (รันเวย์ 4) ซึ่งอยู่ฝั่งตะวันออกของสนามบิน จะใช้เวลาออกแบบรายละเอียดประมาณ 10 เดือน คาดเปิดประมูลในต้นปี 70 ใกล้เคียงกับอาคารผู้โดยสารด้านใต้ โดยประมาณการณ์วงเงินลงทุน 2 หมื่นล้านบาท เนื่องจากมีงานปรับปรุงคุณภาพดิน (Ground Improvement) ใช้เวลาประมาณ 8 เดือน คาดเปิดประมูลก่อสร้างได้ในต้นปี 70 ใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี เปิดให้บริการปี 73
สำหรับโครงการส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารหลักด้านทิศตะวันออก (East Expansion) วงเงินลงทุนประมาณ 10,000 ล้านบาท การออกแบบรายละเอียดเสร็จแล้ว เตรียมเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท. พิจารณาเห็นชอบในเดือน ก.ย.67 จากนั้นเสนอ ครม.รับทราบ คาดว่าจะเปิดประมูลในเดือน ธ.ค.67
ส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันตกของอาคารผู้โดยสาร (West Expansion) รอการทบทวนแผนแม่บทฯ เสร็จก่อน จากนั้นจะมีการออกแบบรายละเอียดเพื่อให้สอดคล้องกับแผนแม่บทที่ทบทวนใหม่ คาดว่าจะใช้เวลาออกแบบประมาณ 8 เดือน ดังนั้น จะเปิดประมูลได้ในช่วงเวลาเดียวกับผู้โดยสารด้านทิศใต้
“ใน 68 ปีนี้ จะประมูลส่วนต่อขยายด้านตะวันออกก่อน ส่วนต่อขยายอาคารด้านตะวันตกจะรอแผนแม่บทเสร็จก่อน ส่วนอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 2 (SAT-2) จะไม่ก่อสร้างแล้ว โดยจะก่อสร้างอาคารผู้โดยสารด้านใต้ ให้มีขนาดใหญ่ขึ้นรับได้ที่ 70 ล้านคนต่อปี”
นายกีรติ กล่าวว่า ตามแผนล่าสุด หากก่อสร้างอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้แล้วเสร็จ และเปิดให้บริการแล้ว ทอท.จะเตรียมแผนในการปิดอาคารผู้โดยสารหลักในปัจจุบันเพื่อปรับปรุงใหม่เพราะการเปิดใช้งานมานานแล้วตั้งแต่ปี 49
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ส.ค. 67)
Tags: AOT, กีรติ กิจมานะวัฒน์, ท่าอากาศยานไทย, ศูนย์กลางการบิน, สนามบินสุวรรณภูมิ