เงินบาทเปิด 33.14 แนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่องจากสถานการณ์โควิดทั้งใน-ตปท.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 33.14 บาท/ดอลลาร์ จากปิดตลาดเย็นวานนี้อยู่ที่ระดับ 33.12/14 บาท/ดอลลาร์ โดยมีทิศทางอ่อนค่าต่อเนื่องหลังดอลลาร์แข็งค่าจากความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดรุนแรงของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาที่อาจส่งผลต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

ขณะที่มีปัจจัยในประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีความรุนแรง และผลพวงจากการประชุม กนง.มีคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนัดถัดไป

“บาทมีแนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่องจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอก โดยเฉพาะสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาที่มีความรุนแรง”

นักบริหารเงินกล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 33.05 – 33.25 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (4 ส.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.24233% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.25840%

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ 109.64 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 109.16/18 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.1833 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1857/1860 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.079 บาท/ดอลลาร์
  • ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เผยกรณีที่ กนง.มีมติไม่เป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% มีความเป็นไปได้มากขึ้นที่ กนง.จะตัดสินใจลดดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไป ควบคู่ไปกับการใช้มาตรการเฉพาะจุด
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย ปฏิเสธที่จะพิจารณาการใช้เครื่องมืออัดฉีดสภาพคล่องหรือ QE ซึ่งมีผลในการพยุงเศรษฐกิจระยะสั้น โดยยืนยันว่าภายใต้สถานการณ์ที่การระบาดรุนแรงขึ้น และอัตราดอกเบี้ยนโยบายมีกระสุนเหลือน้อย ธปท.ได้ศึกษาเครื่องมือการเงินอื่นๆ ไว้ โดยเห็นว่าการทำ QE อาจไม่ตอบโจทย์ของไทย
  • จ๊อบส์ ดีบี เผยโควิดฉุดไตรมาสแรกคนว่างงานสูงสุดในรอบ 5 ปี จับตาระลอก 4 หวั่นเสี่ยงยอดงานพุ่งทะลัก ด้านวิจัยกสิกรชี้ไวรัสระบาดคนติดเชื้อเพียบ ทำขนส่งออนไลน์ชะงัก คาดปีนี้โต 19%
  • “เอ็กซิมแบงก์” ฟุ้งปล่อยกู้ต่อลมหายใจให้ 4 สายการบิน รวม 2.2 พันล้านบาท ช่วยพยุงจ้างงาน-หล่อเลี้ยงธุรกิจ แจงถกช่วยเพิ่มอีก 2 ราย เล็งขยายพักหนี้ยาวถึงสิ้นปี 2564 พร้อมโดดอุ้มธุรกิจเกี่ยวเนื่องท่องเที่ยว-เปราะบาง ด้าน “สมาคมสายการบิน” โอดยังไม่ได้รับอนุมัติเงินกู้ประคองจ้างงาน ระบุติดขั้นตอนพิจารณาของ บสย.วอนรัฐช่วยกระทุ้ง
  • ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค.นี้เป็นต้นไปผู้ฝากเงินในสถาบันการเงินภายใต้กฎหมายคุ้มครองเงินฝากจะได้รับความคุ้มครองเงินฝากตามกฎหมายคุ้มครองเงินฝากในวงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อ 1 รายผู้ฝากต่อสถาบันการเงินซึ่งเป็นวงเงินที่กำหนดตามกฎหมายทั้งนี้วงเงินคุ้มครองที่ 1 ล้านบาทมีผู้ฝากที่ได้รับความคุ้มครองเงินฝากเต็มจำนวน 82.07 ล้านราย คิดเป็น 98.03% ของผู้ฝากทั้งระบบซึ่งถือเป็นประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ
  • สปส. เริ่มโอนเงิน 2,500 บาท เยียวยา ช่วยผู้ประกันตน ม.33 ชุดแรก 13 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบโควิดผ่าน “พร้อมเพย์” ตามลำดับเลขบัตรประชาชน
  • องค์การอนามัยโลก (WHO) เรียกร้องให้นานาชาติระงับโครงการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 เข็มที่ 3 เป็นการชั่วคราว เพื่อลดความเหลื่อมล้ำของการฉีดวัคซีนทั่วโลก
  • ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 330,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 653,000 ตำแหน่ง การจ้างงานที่ชะลอตัวในเดือนก.ค.ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา
  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) หลังจากนายริชาร์ด แคลริดา รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดการณ์ว่า เฟดจะประกาศปรับลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ภายในปีนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค.ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันพรุ่งนี้
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐขยายตัวน้อยกว่าคาด อย่างไรก็ดี สัญญาทองคำขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยกดดันตลาด
  • นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์นี้ โดยตัวเลขดังกล่าวถือเป็นตัวเลขจ้างงานตัวสุดท้าย ก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 ส.ค. ซึ่งนักลงทุนคาดว่าเฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งแนวโน้มการปรับลดวงเงิน QE ในการประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮล
  • นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ในวันศุกร์นี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 926,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. สูงกว่าที่เพิ่มขึ้น 850,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ซึ่งหากตัวเลขการจ้างงานออกมาแข็งแกร่ง ก็จะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เฟดเริ่มปรับลดวงเงิน QE
  • ข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 64.1 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากระดับ 60.1 ในเดือนมิ.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 60.5 โดยได้รับแรงหนุนจากการเปิดเศรษฐกิจของสหรัฐ ท่ามกลางความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในวงกว้าง ส่งผลให้คำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงานเพิ่มขึ้นในเดือน ก.ค.

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ส.ค. 64)

Tags: , ,