ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นในวันนี้ (29 ก.ค.) หลังจากที่ปรับตัวลดลงในสัปดาห์ก่อน เพราะเกิดความกังวลว่าความขัดแย้งในตะวันออกกลางอาจบานปลาย หลังเกิดเหตุยิงจรวดในที่ราบสูงโกลันที่อิสราเอลยึดครอง ซึ่งทั้งอิสราเอลและสหรัฐฯ มองว่าเป็นฝีมือของกลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์จากเลบานอน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) เพิ่มขึ้น 20 เซนต์ หรือ 0.3% แตะ 81.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้น 9 เซนต์ หรือ 0.1% อยู่ที่ 77.25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อเวลาประมาณ 07:10 น. ตามเวลาไทย
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ดิ่งลง 1.8% ส่วน WTI ร่วง 3.7% เพราะดีมานด์จากจีนซบเซา ประกอบกับความหวังว่าจะมีข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซา
เมื่อวานนี้ (28 ก.ค.) คณะรัฐมนตรีความมั่นคงอิสราเอลได้ไฟเขียวให้รัฐบาลของนายกฯ เบนจามิน เนทันยาฮู ตัดสินใจเรื่อง “วิธีการและจังหวะเวลา” ในการตอบโต้เหตุยิงจรวดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (27 ก.ค.) บริเวณที่ราบสูงโกลัน ซึ่งคร่าชีวิตเด็กและวัยรุ่น 12 คน
ด้านกลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์ปฏิเสธว่าไม่ได้อยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นเหตุรุนแรงที่สุดในอิสราเอลหรือดินแดนที่อิสราเอลยึดครอง นับตั้งแต่กลุ่มฮามาสบุกโจมตีเมื่อ 7 ต.ค. จนเป็นชนวนสงครามในกาซา
อิสราเอลได้ประกาศตอบโต้กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน โดยเครื่องบินรบอิสราเอลได้ถล่มเป้าหมายในเลบานอนเมื่อวานนี้
นักวิเคราะห์เปิดเผยว่า ความกังวลว่าสถานการณ์ในตะวันออกกลางจะตึงเครียดขึ้นนั้นได้เข้ามากระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อ แต่ราคาขึ้นได้ไม่มากนัก เพราะยังมีปัจจัยกดดันจากความต้องการใช้น้ำมันของจีนที่ชะลอตัว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 ก.ค. 67)
Tags: ราคาน้ำมัน