นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ในฐานะรองโฆษกพรรคฯ กล่าวว่า การนัดชุมนุมทางการเมืองในรูปแบบคาร์ม็อบพร้อมกันหลายจังหวัดทั่วประเทศเมื่อวานนี้ (1 ส.ค.64) ถือเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองรูปแบบใหม่ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งผู้ชุมนุมต้องการป้องกันตัวเองด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้การแสดงออกทางการเมืองเป็นสิทธิที่สามารถทำได้ แต่การออกมาเคลื่อนไหวในช่วงเวลานี้ แม้มีการรักษาระยะห่าง แต่ก็ขัดต่อกฎหมายหลายฉบับที่เกี่ยวข้อง และการที่แกนนำผู้ชุมนุมประเมินว่า ช่วงนี้เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของรัฐบาล เป็นช่วงที่รัฐบาลอ่อนแอที่สุด การออกมาเคลื่อนไหวตอนนี้จะทำให้มีแนวร่วมมากขึ้น พร้อมกับเรียกร้องให้พรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากพรรคร่วมนั้น ตนเองในฐานะ ส.ส. เห็นว่าทุกอย่างมีกติกาอยู่แล้ว คือ 1.หากนายกฯ ไม่สามารถบริหารราชการแผ่นดินได้ก็ตัดสินใจลาออก และ 2.ยุบสภา
ดังนั้นเราต้องให้ความเป็นธรรมรัฐบาลด้วย เพราะรัฐบาลก็พยายามแก้ปัญหาให้ประชาชน วันนี้ถ้าพรรคภูมิใจไทยลาออก เท่ากับเราทิ้งปัญหาตัดช่องน้อยแต่พอตัว เพื่อเอากระแสความนิยมของคนส่วนหนึ่ง ถามว่าความเป็นพรรคการเมืองวันนี้ก็ยังมีคนอีกกลุ่มที่ไม่ได้เห็นด้วยว่าจะต้องลาออก
“ในฐานะ ส.ส. พวกเราพร้อมทุกอย่าง ไม่ว่านายกฯ จะลาออกหรือยุบสภา แต่กรณียุบสภา คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 60 วัน ถ้าจัดการเลือกตั้งไม่ได้ ใครจะรับผิดชอบ พรรคภูมิใจไทยไม่กังวล เพราะนักการเมืองทุกคนต้องพร้อมทำตามกติกา ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายกฯ ไม่ว่าจะลาออกหรือยุบสภา เพราะเป็นสิทธิของท่าน ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยต้องพิสูจน์ว่าถ้าเราทิ้งรัฐบาลในวิกฤตนี้ ถามว่าประชาชนจะให้โอกาสเราได้กลับมาอีกหรือไม่ เพราะเหมือนว่าเราทิ้งเพื่อน และทิ้งประชาชน ทิ้งชาวบ้าน ทิ้งผู้ป่วยที่กำลังติดโควิด-19 เพื่อเอาความนิยมจากประชาชนส่วนหนึ่ง” นายณัฏฐ์ชนน กล่าว
หากพรรคร่วมรัฐบาลไม่ลาออกจะยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลงหรือถูกกดดันหนักกว่าเดิมหรือไม่ นายณัฏฐ์ชนน กล่าวว่า การขับเคลื่อนของกลุ่มการเมืองต่างๆ ในอดีตมีบทเรียนให้เห็นแล้วว่า หากทำอะไรที่ผิดกฎหมายย่อมไม่ได้รับการยกเว้น จะต้องถูกดำเนินคดีไม่ช้าก็เร็ว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ส.ค. 64)
Tags: ณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ, พรรคภูมิใจไทย, พรรคร่วมรัฐบาล