ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวลง ส่งสัญญาณการพักฐานของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในคืนนี้ หลังดัชนีดาวโจนส์พุ่งกว่า 200 จุด แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์วานนี้
ณ เวลา 18.15 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 30 จุด หรือ 0.08% สู่ระดับ 40,484 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดพุ่งขึ้นวานนี้ ขานรับคาดการณ์ที่ว่า ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปรับตัวขึ้น หากนายโดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย. เนื่องจากพรรครีพับลิกันมีนโยบายที่เป็นมิตรต่อภาคธุรกิจ ซึ่งจะทำให้กำไรของบริษัทจดทะเบียนเพิ่มขึ้น และส่งผลบวกต่อตลาด
นอกจากนี้ มีการคาดการณ์ว่า ชัยชนะในการเลือกตั้งของนายทรัมป์จะช่วยลดโอกาสในการเกิดเหตุจลาจลในสหรัฐ ซึ่งจะช่วยสร้างเสถียรภาพต่อเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นในตลาด
“ที่ผ่านมา ทรัมป์มักมีนโยบายที่เอื้อต่อตลาด ขณะที่มีการคาดการณ์ว่า ทรัมป์จะชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลายในครั้งนี้ ซึ่งจะช่วยให้ตลาดคลายความวิตกเกี่ยวกับความไม่แน่นอนในการเลือกตั้ง” นายนิค เฟอร์เรส หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ Vantage Point Asset Management กล่าว
ทางด้านโกลด์แมน แซคส์ออกรายงานระบุว่า “ในการเลือกตั้งประธานาธืบดี 5 ครั้งในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ความเชื่อมั่นของประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และโดยเฉพาะความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดเล็ก มักขานรับชัยชนะของพรรครีพับลิกันมากกว่าพรรคเดโมแครต และความเชื่อมั่นดังกล่าวนำไปสู่การใช้จ่ายและการลงทุนที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นชัยชนะของทรัมป์จะช่วยกระตุ้นแนวโน้มกำไรของภาคธุรกิจ”
นอกจากนี้ นักลงทุนขานรับถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งกล่าววานนี้ว่า เฟดจะไม่รอจนกว่าเงินเฟ้อปรับตัวสู่เป้าหมาย 2% ก่อนที่จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย
นายพาวเวลกล่าวถ้อยแถลงดังกล่าวที่สมาคมเศรษฐกิจแห่งวอชิงตัน ดีซี (Economic Club of Washington, D.C.) เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการย้ำถ้อยแถลงที่เขากล่าวในแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
“เหตุผลในเรื่องนี้ก็คือ ถ้าคุณรอจนกว่าเงินเฟ้อลงถึง 2% จะกลายเป็นว่าคุณรอนานเกินไป เนื่องจากมาตรการคุมเข้มทางการเงินที่คุณกำลังใช้อยู่ หรือระดับความตึงตัวที่คุณใช้ ยังคงส่งผลกระทบซึ่งอาจทำให้เงินเฟ้อลดลงต่ำกว่า 2%”
“ดังนั้น สิ่งที่เฟดกำลังมองหาก็คือ ‘ความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้น’ ว่าเงินเฟ้อจะปรับตัวกลับสู่ระดับ 2% ซึ่งสิ่งที่จะเพิ่มความเชื่อมั่นดังกล่าวก็คือข้อมูลเงินเฟ้อที่ดีจำนวนมากขึ้น และเมื่อไม่นานมานี้เราก็เริ่มเห็นข้อมูลเงินเฟ้อที่ดีดังกล่าวแล้ว” นายพาวเวลกล่าว
นอกจากนี้ นายพาวเวลกล่าวว่า เขาไม่คิดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเผชิญกับภาวะทรุดตัวลงอย่างรุนแรง หลังมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ก.ค. 67)
Tags: ดาวโจนส์ฟิวเจอร์, ตลาดหุ้นนิวยอร์ก, ตลาดหุ้นวอลล์สตรีท, ตลาดหุ้นสหรัฐ