ทางการจีนได้ออกมาตรการเชิงรุกซึ่งมีเป้าหมายที่จะควบคุมการขายชอร์ตหุ้น (Short-Selling) และกลยุทธ์การซื้อขายหุ้นโดยใช้การวิเคราะห์เชิงปริมาณ (Quantitative Trading Strategy) โดยมีเป้าหมายที่จะสกัดการร่วงลงของตลาดหุ้นในประเทศ ในขณะที่การประชุมนโยบายเศรษฐกิจของพรรคคอมมิวนิสต์จีนซึ่งตลาดจับตาอย่างใกล้ชิดนั้น กำลังใกล้เข้ามา
คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์จีน (CSRC) ได้อนุมัติการเพิ่มข้อกำหนดการวางเงินประกันสำหรับการขายชอร์ตหุ้น โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 22 ก.ค.นี้ ซึ่งจะส่งผลให้บรรดาเฮดจ์ฟันด์และนักลงทุนทั่วไปมีต้นทุนการขายชอร์ตที่แพงขึ้น ขณะเดียวกันบริษัทไชน่า ซิเคียวริตีส์ ไฟแนนซ์ คอร์ป (China Securities Finance Corp) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเงินกู้เพื่อการซื้อขายหุ้นรายใหญ่ที่สุดของจีน จะระงับธุรกิจการปล่อยกู้เพื่อซื้อขายหลักทรัพย์ให้กับบริษัทโบรกเกอร์ โดยจะเริ่มในวันนี้ (11 ก.ค.)
ทั้งนี้ CSRC ประกาศมาตรการดังกล่าวในช่วงเย็นวานนี้ (10 ก.ค.) หลังจากดัชนี CSI 300 ตลาดหุ้นจีนร่วงลงติดต่อกัน 7 วันทำการ และเป็นการส่งสัญญาณว่าทางการจีนต้องการที่จะยับยั้งการทรุดตัวของตลาดหุ้น โดยมูลค่าตลาดหุ้นออนชอร์ของจีนหายไปราว 1 ล้านล้านดอลลาร์นับตั้งแต่กลางเดือนพ.ค.ปีนี้ อย่างไรก็ดี แม้มาตรการดังกล่าวอาจจะช่วยกระตุ้นบรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นให้คึกคักในทันทีนั้น คาดว่าผลกระทบในระยะยาวที่เกิดจากการที่จีนพยายามควบคุมการขายชอร์ตอาจจะอยู่แค่ในวงจำกัด
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ทางการจีน รวมทั้งประเทศเพื่อนบ้านอย่างเกาหลีใต้และไทย ถือเป็นกลุ่มประเทศที่ใช้มาตรการเชิงรุกมากที่สุดในเอเชียในการควบคุมการขายชอร์ต แต่ถึงกระนั้นก็ตาม มาตรการดังกล่าวแทบจะไม่ได้ช่วยแก้ไขรากของปัญหาที่เป็นสาเหตุทำให้ตลาดอ่อนแอ ซึ่งปัญหาดังกล่าวในจีนนั้นรวมถึงความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในตลาดที่อยู่อาศัย ความตึงเครียดด้านการค้าระลอกใหม่ และการที่นักลงทุนมีความเชื่อมั่นน้อยลง
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะจัดการประชุมใหญ่ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนชุดที่ 20 ครั้งที่ 3 (Third Plenum) ในวันที่ 15 ก.ค.นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์จากหลายสำนักซึ่งรวมถึงโกลด์แมน แซคส์ และเจพีมอร์แกน ต่างก็คาดการณ์ว่า รัฐบาลจีนจะไม่มีการประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ แต่จะเพิ่มขนาดของมาตรการต่าง ๆ ที่มีการบังคับใช้ในปัจจุบันเท่านั้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ก.ค. 67)
Tags: จีน, ซื้อขายหุ้น, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นจีน, เกาหลีใต้