ราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงเกือบ 1.5% ในช่วงเช้านี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของภาคการผลิตจีน รวมทั้งรายงานที่ว่า การผลิตน้ำมันในเดือนก.ค.ของกลุ่มโอเปกพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 15 เดือน
ณ เวลา 09.45 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 1.08 ดอลลาร์ หรือ 1.46% แตะที่ 72.87 ดอลลาร์/บาร์เรล
มาร์กิตและไฉซินเปิดเผยผลสำรวจในวันนี้ระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนก.ค.ของจีนร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือน เนื่องจากยอดสั่งซื้อล็อตใหม่ในภาคการผลิตปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปี อันเนื่องมาจากราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้น
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนเดือนก.ค.ร่วงลงแตะระดับ 50.3 จากระดับ 51.3 ในเดือนมิ.ย. โดยดัชนี PMI เดือนก.ค.อยู่ที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2563 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 51.1
ข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เมื่อวันเสาร์ว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนก.ค. อยู่ที่ระดับ 50.4 ลดลงจากระดับ 50.9 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งนับเป็นการชะลอตัวลงมากที่สุดในรอบ 17 เดือน เนื่องจากต้นทุนของวัตถุดิบและสภาพอากาศที่แปรปรวนเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางธุรกิจ
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ผลิตน้ำมันดิบในเดือนก.ค.ในปริมาณ 26.72 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2563 และเพิ่มขึ้น 610,000 บาร์เรลต่อวันจากเดือนมิ.ย.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ส.ค. 64)
Tags: WTI, น้ำมันดิบ, ราคาน้ำมัน