นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม กล่าวว่า กรมท่าอากาศยาน (ทย.) รายงานการเข้าร่วมประชุมจัดสรรเวลาของสมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ ครั้งที่ 154 ณ กรุงโบโกตา สาธารณรัฐโคลอมเบีย เมื่อเดือนมิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา เพื่อจัดสรรเวลาเที่ยวบินในกำหนดการบินประจำฤดูหนาว ปี 2567 และ 2568 โดยมีสายการบินที่ขอทำการบิน ณ ท่าอากาศยานกระบี่แบบเที่ยวบินประจำ 10 สายการบิน และเที่ยวบินเช่าเหมาระหว่างประเทศ 3 สายการบิน คาดว่าจะมีเที่ยวบินเพิ่มขึ้นมากกว่า 160 เที่ยวบินต่อสัปดาห์
นายสุริยะ กล่าวว่า ได้สั่งการให้ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่วางแผนรองรับการให้บริการเที่ยวบินและผู้ใช้บริการที่จะเพิ่มมากขึ้น พร้อมทั้งกำชับให้จัดบุคลากรอำนวยความสะดวกในจุดต่าง ๆ ต้องเพียงพอกับจำนวนผู้ใช้บริการ ตรวจเช็กสิ่งอำนวยความสะดวกของท่าอากาศยานให้มีประสิทธิภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอ รวมถึงประชาสัมพันธ์การให้คำแนะนำวิธีการใช้ระบบตรวจบัตรโดยสารขึ้นเครื่องด้วยตนเอง (CUPPS) แก่ผู้โดยสาร เพื่อความสะดวกรวดเร็ว ช่วยลดความแออัดของผู้โดยสาร
และให้ ทย. นำข้อมูล ข้อเสนอแนะของสายการบินที่ได้รับจากการเข้าร่วมการประชุมฯ มาปรับปรุงการดำเนินงานและเตรียมความพร้อมในการวางแผนพัฒนาท่าอากาศยานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการเปิดเส้นทางระหว่างประเทศที่จะเพิ่มขึ้นถือเป็นการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านการบิน (Aviation Hub) และเป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยวเมืองรองของประเทศไทยอีกด้วย
นายดนัย เรืองสอน วิศวกรใหญ่ที่ปรึกษาวิชาชีพเฉพาะด้านวิศวกรรมโยธา รักษาราชการแทน อธิบดี ทย. กล่าวเพิ่มเติมว่า สายการบินที่ขอทำการบิน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ แบบเที่ยวบินประจำ 10 สายการบิน ได้แก่ Flydubai, Scoot Tigerair, LOT Polish Airlines, TUI Fly, Jetstar Asia Airways, Thai AirAsia, AirAsia Berhad,Bangkok Airways, Shanghai Airlines และ China Eastern Airlines
ส่วนเที่ยวบินเช่าเหมาระหว่างประเทศ 3 สายการบิน ได้แก่ TUI fly, LOT Polish Airlines และ Neos Airlines คาดการณ์ว่าจะมีเที่ยวบินระหว่างประเทศมากกว่า 160 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และนอกจากนี้ ยังมีสายการบินที่สอบถามข้อมูลท่าอากาศยานเพื่อนำไปทำแผนการบิน ได้แก่ Eastar Jet และ Spring Airlines
ในปี 2566 ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ มีสายการบินให้บริการในเส้นทางระหว่างประเทศ จำนวน 5 สายการบิน รวมทั้งสิ้น 3,006 เที่ยวบิน มีผู้ใช้บริการขาเข้า – ขาออก รวมกว่า 430,000 คน ซึ่ง ทย. ยืนยันความพร้อมด้วยอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่รวมทั้งหมด 68,000 ตารางเมตร รองรับผู้ใช้บริการได้ 3,000 คน/ชั่วโมง หรือ 8,000,000 คน/ปี ความยาวทางวิ่งขนาด 3,000 x 45 เมตร ทางขับขนานรองรับการขึ้นลงของอากาศยานได้ 25 ลำ/ชั่วโมง ลานจอดรองรับอากาศยานขนาด B737 หรือ A330 ได้ 34 ลำ และยังมีอาคารจอดรถยนต์ที่สามารถจอดรถได้ 2,000 คัน ซึ่งจะเร่งรัดให้เปิดใช้บริการภายในปี 2568 รวมถึงการเร่งพัฒนาเทคโนโลยีและนำระบบอัตโนมัติเข้ามาใช้งาน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ก.ค. 67)
Tags: กระบี่, สนามบินกระบี่, สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ