ผลสำรวจภาคธุรกิจที่เปิดเผยในวันนี้ (21 มิ.ย.) บ่งชี้ว่า กิจกรรมทางธุรกิจของอินเดียในเดือนมิ.ย. 2567 เติบโตเร็วขึ้นจากเดือนพ.ค. โดยได้แรงหนุนจากภาคการผลิตและภาคบริการที่ขยายตัว ขณะที่การจ้างงานใหม่พุ่งสูงสุดในรอบกว่า 18 ปี
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การเติบโตอย่างแข็งแกร่งของทั้งสองภาคส่วนในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณนี้ เป็นสัญญาณบวกต่อเศรษฐกิจอินเดียในปีนี้ หลังจากปีที่แล้วเศรษฐกิจอินเดียขยายตัวถึง 8.2% ซึ่งสูงที่สุดในบรรดาประเทศเศรษฐกิจหลัก โดยมีภาคการผลิตเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ
HSBC เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นของอินเดียที่รวบรวมโดยเอสแอนด์พี โกลบอล อยู่ที่ระดับ 60.9 ในเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้นจาก PMI ขั้นสุดท้ายของเดือนพ.ค.ที่ 60.5 และอยู่เหนือระดับ 50 มาแล้วเกือบ 3 ปี
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่ระดับสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว
ด้านดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นต้นอยู่ที่ระดับ 58.5 ในเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้นจาก 57.5 ในเดือนพ.ค. ขณะที่ดัชนี PMI ภาคบริการขั้นต้นอยู่ที่ระดับ 60.4 ในเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 60.2 ในเดือนพ.ค. สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจอินเดีย แม้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงก็ตาม
คำสั่งซื้อส่งออกใหม่ขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 22 ในเดือนมิ.ย. แม้ชะลอตัวลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้าซึ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
อุปสงค์ที่แข็งแกร่งกระตุ้นให้บริษัทต่าง ๆ เร่งจ้างงาน โดยการจ้างงานโดยรวมเพิ่มขึ้นในอัตราเร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2549 โดยภาคการผลิตมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นมากกว่าภาคบริการ
ขณะเดียวกัน การขึ้นราคาสินค้าของบริษัทต่าง ๆ เริ่มชะลอตัวลงนับตั้งแต่เดือนพ.ค. ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีต่ออัตราเงินเฟ้อในภาคค้าปลีก โดยต้นทุนด้านบริการชะลอตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน ขณะที่ราคาสินค้าที่เรียกเก็บจากลูกค้าอยู่ในระดับทรงตัว
แม้ว่ามุมมองของภาคธุรกิจต่อเศรษฐกิจในอนาคตจะอ่อนแอลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน แต่โดยรวมยังคงเป็นบวก โดยบริษัทต่าง ๆ คาดการณ์ว่า ผลประกอบการจะเติบโตต่อเนื่องจากโครงการใหม่ ๆ ที่กำลังจะมีขึ้น ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น และอัตราแลกเปลี่ยนที่เอื้ออำนวย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 มิ.ย. 67)