นายศุภกฤษฎ์ บุญสาตร์ ผู้ก่อตั้ง บริษัท ไทย บิทแคสต์ จำกัด และนายพีรพัฒน์ หาญคงแก้ว ประธานเจ้าหน้าที่แนะนำการลงทุน บริษัท คริปโตมายด์ แอดไวเซอรี่ จำกัด ได้ร่วมพูดคุยและแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับ Bitcoin & Crypto ภาพรวมตลาดครึ่งปีหลัง 2024 ว่า ครึ่งปีแรก 2024 ที่ผ่านมา Bitcoin ยังคงสามารถทำผลตอบแทนที่ดี โดยทำ All Time High ใหม่ได้ในกลางมีนาคมราคาปรับตัวสูงขึ้นในช่วงต้นปีหลังจากการอนุมัติ Spot Bitcoin ETF และการเข้าใกล้ Bitcoin Halving ในขณะที่ Altcoin ก็ฟื้นตัวขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน ภายหลังจากเหตุการณ์ Bitcoin Halving นั้น Bitcoin เริ่มปรับฐานลงในไตรมาสสองเนื่องจากปัจจัยบวกเริ่มหมดไปและความไม่แน่นอนจากสงครามและนโยบายการเงิน แม้จะมีการอนุมัติ Spot Ethereum ETF ก็ไม่สามารถหนุนราคาได้มากนัก ในขณะที่ Altcoin ก็มีเพียงบางกลุ่มเท่านั้นที่ทำผลตอบแทนได้ดีอาทิ Memecoins, RWAs และ AI
ปัจจุบันภาพรวมตลาดอยู่ในภาวะดอกเบี้ยที่ระดับ 5% โดยคริปโทเคอร์เรนซียังคงมีราคาใกล้เคียงกับช่วงปี 2021 ซึ่งขณะนั้นอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำมาก จึงถือได้ว่าคริปโทเคอร์เรนซีอยู่ในจุดที่ค่อนข้างดีมากที่ยังสามารถยืนราคาอยู่ได้ อย่างไรก็ตาม หากต้องการเห็นการเติบโตของตลาดอย่างก้าวกระโดด ต้องจับตาดูว่าอัตราดอกเบี้ยจะลดลงหรือไม่
ทันทีที่อัตราดอกเบี้ยลดลงมีแนวโน้มที่จะเห็นการปรับตัวราคาครั้งใหญ่ของตลาดคริปโทเคอร์เรนซี เนื่องจากการที่ตลาดอยู่ในสภาพนี้ได้ เป็นเพราะมีการคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยจะลดลง ต้นทุนทางการเงินสูงขึ้น ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มีมุมมองว่าอัตราดอกเบี้ยจะเริ่มลดลงตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ของปี 2023 เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าการนำคริปโทเคอร์เรนซีมาใช้งานจริงในปัจจุบันยังมีระดับค่อนข้างต่ำ เนื่องจากผู้คนยังซื้อคริปโทฯ เพื่อคาดหวังในอนาคตเช่นเดียวกับการลงทุนในหุ้น ซึ่งราคาหุ้นจะสูงขึ้นเนื่องจากคาดการณ์ถึงผลประกอบการในอนาคต แม้ภาคธุรกิจจริงและคริปโทเคอร์เรนซีจะมีนวัตกรรม และการใช้งานจริงให้เห็นซึ่งต่างจาก Bull Run ในรอบที่แล้วที่ยังมองไม่เห็นรูปแบบของการใช้งานที่เป็นรูปธรรมกันบ้างแล้ว แต่ก็ยังถือเป็นเพียงส่วนเล็กน้อยเมื่อเทียบกับตลาดอื่น ๆ
ด้าน Ethereum ETF หลังจากที่ได้รับการอนุมัติใบแรกแล้วมีคำถามว่าทำไมราคาถึงไม่พุ่งขึ้นเหมือนกับ Bitcoin? คำตอบคือ เนื่องจากการอนุมัติในครั้งนี้ยังไม่ใช่เป็นการอนุมัติให้บริการซื้อขายได้ เป็นแค่ใบอนุมัติธรรมดา คาดว่าจะได้รับการอนุมัติให้ซื้อขายได้ภายในระยะเวลา 3 เดือน และคาดว่าน่าจะได้รับอนุมัติตามออกมาอีกเรื่อย ๆ และหากเราดูจากราคาของ Bitcoin และปริมาณของ Bitcoin ที่ไหลเข้าไปในกองของ Bitcoin Spot ETF เราก็จะพอประเมินได้ว่าราคาของ Ethereum นั้นน่าสนใจว่ามีโอกาสทำกำไรได้มากกว่า Bitcoin ในกรอบวลาภายในปีนี้ ทั้งนี้ หากอัตราดอกเบี้ยยังคงไม่ลดลง แนวโน้มของตลาดคริปโทเคอร์เรนซีจะอยู่ในช่วง Side way ขาขึ้น โดยมีปัจจัยบวกจากการเลือกตั้งและการออก Ethereum ETF
สำหรับการลงทุนใน Altcoin ยังคงมีความผันผวนสูง เนื่องจากเมื่อราคา Bitcoin ปรับตัวขึ้นหรือลง คริปโทเคอร์เรนซีอื่น ๆ จะมีการเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงตามไปด้วย จนกว่าอัตราดอกเบี้ยจะลดลง ในช่วงเวลานี้ หากต้องการลงทุน มุมมองคือ Ethereum มีมีอัพไซต์ที่ใหญ่กว่า Bitcoin หรืออาจลงทุนใน Bitcoin เพราะเป็นตัวที่มีความเสี่ยงต่ำ พวก Altcoin จะเล่นได้ยากในช่วงนี้ แต่หากต้องการความปลอดภัยสูงสุด
อาจรอจนกระทั่งสถานการณ์คลี่คลายและมีเสถียรภาพมากขึ้น ส่วน SocialFi หากพิจารณาจากโอกาสการเติบโตของ SocialFi ที่จะเกิดขึ้นจาก Web3 มีแนวโน้มที่ดีและเริ่มมีการแข่งขันที่สูงขึ้นแล้ว มีมุมมองว่าในอนาคต SocialFi จะเป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในการสร้างโปรเจกต์ของเหล่าคริปโทฯ คือใช้ SocialFi ในการ Promote นั่นเอง
สุดท้ายคือ Real World Assets (RWA) ต้องคอยติดตอบนับจากนี้ไปจะเริ่มเห็นการกำกับดูแลคริปโทเคอร์เรนซีที่เป็น Real Assets จะมีความชัดเจนมากขึ้นและการนำไปใช้จริงที่หลากหลายมากขึ้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 มิ.ย. 67)
Tags: Bitcast, bitcoin, Crypto, cryptomind, คริปโตมายด์ แอดไวเซอรี่, พีรพัฒน์ หาญคงแก้ว, ศุภกฤษฎ์ บุญสาตร์, ไทย บิทแคสต์