ดีลอยท์ เปิดผลสำรวจ “Gen Z-มิลเลนเนียลไทย” กังวลสูง ปัญหาค่าครองชีพ-สวล.

ดีลอยท์ ประเทศไทย เผยผลสำรวจ Deloitte Global 2024 Gen Z and Millennial Survey – Thailand Perspective ซึ่งเป็นผลการศึกษาสะท้อนมุมมองของ Gen Z และมิลเลนเนียลชาวไทย ที่มีต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม จากทั้งหมด 301 คน แบ่งเป็น Gen Z 201 คน และ มิลเลนเนียลชาวไทย จำนวน 100 คน

*3 อันดับแรกที่ Gen Z กังวลมากที่สุด

– ค่าครองชีพ (37%)

– การว่างงาน (36%)

– ความเหลื่อมล้ำทางรายได้ และความมั่งคั่ง (21%)

*3 อันดับแรกที่ มิลเลนเนียลกังวลมากที่สุด

– ค่าครองชีพ (37%)

– การความเหลื่อมล้ำทางรายได้ และความมั่งคั่ง (26%)

– ความไม่มั่นคงทางการเมือง/ความขัดแย้งระดับโลก (24%)

นอกจากนั้น ยังพบว่าผู้ตอบแบบสอบถาม Gen Z ในประเทศไทย 42% และมิลเลนเนียล 60% รู้สึกดี-ดีมาก กับสภาพจิตใจโดยรวมของตนเองในปัจจุบัน เทียบกับปี 2566 โดยคนทั้ง 2 กลุ่ม ระบุว่ามีความเครียดน้อยลง ผู้ตอบแบบสอบถาม Gen Z ที่บอกว่ารู้สึกวิตกกังวลหรือเครียดตลอดเวลา หรือเกือบตลอดเวลา ลดลงจาก 51% เหลือ 40% และมิลเลนเนียล ลดลงเล็กน้อยจาก 39% เหลือ 38% เหตุผลที่สร้างความเครียด ได้แก่ การเงินในอนาคต การเงินในชีวิตประจำวัน และงาน

*ปัจจัยทางเศรษฐกิจและสังคม ที่มีผลกับสุขภาพจิตของคนไทย

ความคาดหวังของ Gen Z และมิลเลนเนียลไทย ต่อสถานการณ์เศรษฐกิจและการเงิน ว่าจะเป็นไปในทางที่ดีขึ้นในอีก 12 เดือนข้างหน้าลดลง เมื่อเทียบกับปี 2566

– ความคาดหวังต่อภาพรวมเศรษฐกิจ ของ Gen Z ลดลงจาก 27% เหลือ 15% และ มิลเลนเนียล ลดลงจาก 26% เหลือ 22%

– ความคาดหวังต่อสถานการณ์การเงินของตัวเอง ของ Gen Z ลดลงจาก 37% เหลือ 19% และ มิลเลนเนียล ลดลงจาก 38% เหลือ 33%

– ความคาดหวังต่อสถานการณ์โดยรวมของเศรษฐกิจ/การเมืองของ Gen Z ลดลงจาก 27% เหลือ 15% และมิลเลนเนียล ลดลงจาก 24% เหลือ 23%

ผลสำรวจพบว่า 42% ของ Gen Z และ 45% ของมิลเลนเนียล เชื่อว่าองค์กรภาคธุรกิจ สร้างผลกระทบเชิงบวกกับสังคม ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 49% และ 47% ตามลำดับ คนไทยรุ่นใหม่มีความคาดหวังว่าภาคธุรกิจควรมีบทบาทในการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม โดยมองภาคธุรกิจควรสร้างโอกาสการมีส่วนร่วมของพนักงาน ให้ผลตอบแทนที่เท่าเทียมและโปร่งใส สนับสนุนด้านทุนการศึกษา และ สร้างความมั่นใจว่าเทคโนโลยีใหม่ ๆ จะไม่มาซ้ำเติมให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางสังคมเพิ่มมากขึ้น

*ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม

เมื่อถามถึงความรู้สึกต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ Gen Z และมิลเลนเนียลในประเทศไทย 81% และ 92% ตามลำดับ ตอบว่า มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของคนกลุ่มเดียวกันทั่วโลกอย่างมีนัยสำคัญ ที่ 62% และ 59% ตามลำดับ

Gen Z 90% และมิลเลนเนียล 91% มองว่าภาครัฐและภาคธุรกิจ ควรมีบทบาทในด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศมากขึ้น

โดย 92% ของ Gen Z และ 93% ของมิลเลนเนียล ยอมจ่ายแพงขึ้น เพื่อใช้สินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยแนวปฏิบัติยอดนิยม ได้แก่ หลีกเลี่ยงการซื้อสินค้าแฟชั่นด่วน (Fast Fashion) ลดการเดินทาง ศึกษาข้อมูลด้านการสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของบริษัทก่อนการอุดหนุนสินค้าของบริษัทนั้นๆ ทานมังสะวิรัติ หรือ วีแกน (Vegan) และ เลือกใช้รถยนต์ไฟฟ้า

*ปัจจัยด้านการทำงาน

คนรุ่นใหม่ไทยมีเป้าหมายในการทำงานที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยโลกพนักงาน โดย 96% ของ Gen Z ในประเทศไทย และ 99% ของมิลเลนเนียล ตอบว่าการมีเป้าหมายในการทำงานค่อนข้างสำคัญ หรือสำคัญมากต่อความพึงพอใจในงาน และความเป็นอยู่ที่ดี ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของ Gen Z และมิลเลนเนียลทั่วโลกที่ 86% และ 89% ตามลำดับ

อย่างไรก็ดี 91% ของ Gen Z ในประเทศไทย และ 93% ของ มิลเลนเนียลในประเทศไทย บอกว่างานปัจจุบัน ทำให้ตนเองรู้สึกถึงความมุ่งหมาย (Purpose) ที่สำคัญไปกว่านั้น คือ 55% ของ Gen Z และ 60% ของ มิลเลนเนียลในประเทศไทย ปฏิเสธงานที่ได้รับมอบหมายที่ขัดต่อจริยธรรม และความเชื่อของตนเอง

55% ของ Gen Z และ 57% ของมิลเลนเนียล ปฏิเสธที่จะร่วมงานกับองค์กรที่ขัดต่อจริยธรรมและความเชื่อของตนเอง โดยจะเลือกทำงานกับองค์กรที่ตอบโจทย์ในการสร้างสมดุลให้ชีวิตและการทำงาน (Work/life Balance) มีโอกาสในการเรียนรู้ และ เป็นงานที่มีความหมาย

ในภาพรวม Gen Z และมิลเลนเนียลในประเทศไทยเห็นว่า นายจ้างมีความใส่ใจต่อพนักงาน ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยโลก โดย Gen Z 70% และ มิลเลนเนียล 74% ตอบว่านายจ้างให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตของพนักงาน Gen Z 77% และ มิลเลนเนียล 76% ตอบว่ารู้สึกสบายใจที่จะพูดคุยกับผู้จัดการอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับความรู้สึกเครียด วิตกกังวล หรือปัญหาด้านสุขภาพจิตอื่น ๆ

โดย Gen Z 73% และ มิลเลนเนียล 68% บอกว่าหัวหน้างานรู้ว่าจะต้องปฏิบัติอย่างไร เมื่อมีการพูดคุยสื่อสารเมื่อเกิดความเครียด ซึ่งคำตอบของ Gen Z และมิลเลนเนียลคนไทยทั้งสองกลุ่ม สูงกว่าค่าเฉลี่ยโลกที่ 52% และ 59% ตามลำดับ

“ดีลอยท์ ติดตามความเคลื่อนไหวของคนทั้ง 2 เจนเนอเรชั่นทั่วโลกมาอย่างต่อเนื่อง เพราะเราอยากทราบพัฒนาการทางความคิดและมุมมองของคนรุ่นใหม่ ที่จะช่วยให้เกิดโอกาสใหม่ ๆ และ ความเข้าใจกันระหว่างคนในวัยต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น” นายอริยะ ฝึกฝน กรรมการบริหาร ดีลอยท์ คอนซัลติ้ง กล่าว

น.ส.มานิตา ลิ่มสกุล ผู้จัดการอาวุโส ฝ่าย Human Capital ดีลอยท์ คอนซัลติ้ง กล่าวว่า อยากจะขอเน้นย้ำว่าเรื่องการมีสุขภาวะทางจิตที่ดี หรือ Mental Well-being เป็นเรื่องสำคัญมาก กลุ่ม Gen Z และมิลเลนเนียล คือ แรงงานหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของโลกในวันนี้ องค์กรที่มีความเข้าใจ ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ และ สามารถปรับเปลี่ยนวิธีในการดูแลคนรุ่นใหม่ได้อย่างถูกต้อง จะสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับองค์กรได้อย่างมีนัยสำคัญ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 มิ.ย. 67)

Tags: , , , , ,