ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (29 ก.ค.) ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึงฟอร์ด มอเตอร์ และยัม แบรนด์ส ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของพิซซ่า ฮัท และเคนตั๊กกี ฟรายชิกเก้น (KFC) นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนมองว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐที่ขยายตัวต่ำกว่าคาดในไตรมาส 2 อาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไป
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,084.53 จุด เพิ่มขึ้น 153.60 จุด หรือ +0.44%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,419.15 จุด เพิ่มขึ้น 18.51 จุด หรือ +0.42%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,778.26 จุด เพิ่มขึ้น 15.68 จุด หรือ +0.11%
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลข GDP ไตรมาส 2/2564 ของสหรัฐขยายตัว 6.5% ซึ่งแม้ว่าดีกว่าในไตรมาส 1 ที่มีการขยายตัว 6.4% แต่ยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์เอาไว้ที่ 8.5% โดยตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้เป็นการประมาณการครั้งที่ 1
นักวิเคราะห์จากบริษัทเชส อินเวสต์เมนท์ คอนเซล ในรัฐเวอร์จิเนียกล่าวว่า ตัวเลข GDP ที่ขยายตัวต่ำกว่าคาดของสหรัฐทำให้นักลงทุนเชื่อว่า เฟดจะยังไม่ถอนนโยบายผ่อนคลายทางการเงินในระยะใกล้นี้ ซึ่งการแสดงความเห็นดังกล่าวสอดคล้องกับที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดได้แถลงต่อสื่อมวลชนเมื่อวันพุธว่า เฟดยังคงอยู่ห่างไกลจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อพิจารณาจากภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน พร้อมกับส่งสัญญาณว่า เฟดต้องการเห็นภาพรวมทางเศรษฐกิจและตลาดแรงงานของสหรัฐมีความแข็งแกร่งก่อนที่จะตัดสินใจถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
หุ้น 9 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้น นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มวัสดุพุ่งขึ้น 1.08% โดยหุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอร์แรน ทะยานขึ้น 4.85% หุ้นอัลโค คอร์ป พุ่งขึ้น 2.96% หุ้นซีลด์ แอร์ คอร์ป บวก 0.83%
ดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้น 1.07% นำโดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 1.44% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ บวก 0.95% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ เพิ่มขึ้น 0.87% หุ้นเจพีมอร์แกน เพิ่มขึ้น 0.84%
หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 1.24% หุ้นเชฟรอน เพิ่มขึ้น 1.42% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ บวก 0.61% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน บวก 0.78%
หุ้นฟอร์ด มอเตอร์ พุ่งขึ้น 3.75% หลังบริษัทเปิดเผยรายได้ในไตรมาส 2 ที่ระดับ 2.68 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 38% เมื่อเทียบรายปี นอกจากนี้ บริษัทยังคาดการณ์ว่าผลประกอบการตลอดปีงบการเงิน 2564 จะยังคงแข็งแกร่ง แม้เผชิญปัญหาขาดแคลนชิปก็ตาม
หุ้นยัม แบรนด์ส พุ่งขึ้น 6.12% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 2 ที่ระดับ 1.16 ดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.96 ดอลลาร์
หุ้นคอมแคสต์ สื่อยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ดีดตัวขึ้น 0.22% หลังบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 2 ที่ระดับ 84 เซนต์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 67 เซนต์
หุ้นเฟซบุ๊ก ร่วงลง 4.01% หลังจากบริษัทคาดการณ์ว่า รายได้ในช่วงหลายไตรมาสข้างหน้าอาจชะลอตัวลง ภายหลังจากบริษัทแอปเปิล อิงค์ เปิดตัวซอฟต์แวร์ iOS 14.5 ซึ่งกำหนดให้ผู้ใช้งานต้องให้ความยินยอมก่อนที่แอปพลิเคชันต่างๆจะสามารถติดตามข้อมูลของผู้ใช้งาน โดยเฟซบุ๊กซึ่งต้องพึ่งพาการโฆษณาบนแพลตฟอร์มดิจิทัลได้แสดงความกังวลว่า อาจมีผู้ใช้งานจำนวนมากที่ไม่อนุญาตให้ติดตามข้อมูล ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อรายได้จากการโฆษณา
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 400,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว จากระดับ 424,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้
ทางด้านสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ลดลง 1.9% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน หลังพุ่งขึ้น 8.3% ในเดือนพ.ค.
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ได้แก่ รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนมิ.ย., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนมิ.ย., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค. จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ก.ค. 64)
Tags: Nasdaq, S&P500, ดาวโจนส์, ตลาดหุ้นนิวยอร์ก