“จเรรัฐ ปิงคลาศัย” ชื่อนี้เคยสร้างความฮือฮาให้กับวงการตลาดหุ้นในอดีต จากการนั่งคุมบังเหียนบริหาร บมจ.ดราก้อน วัน (D1) ด้วยความเป็น Cash company ซึ่งเขาชื่อว่า D1 จุดพลุต้นแบบบริษัทโฮลดิ้ง ซึ่งถือเป็นเรื่องใหม่ในวงการสมัยนั้น แต่ต่อมาเขาได้หายหน้าหายตาไปจากวงการตลาดหุ้นนานถึง 15 ปี ชื่อกลับไปโลดเล่นอยู่ในวงการรัฐวิสาหกิจและวงการการเมือง
วันนี้เขากลับมาในบทบาทใหม่ ในฐานะเจ้าของธุรกิจหลากหลายที่พร้อมแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนเพื่อปูทางเข้าตลาดหุ้น จากตัวแรกที่ผลักดันเข้าไปสำเร็จแล้ว คือ บมจ.สโตนวัน (STX) ธุรกิจหมืองหินอุตสาหกรรม เพิ่งเข้าเทรดใน SET ไปเมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา
เขายังมีธุรกิจอีกหลากหลายอุตสาหกรรมที่ทั้งเข้าไปเป็นเจ้าของและร่วมถือหุ้น เชื่อว่าอนาคตจะเติบโตไปพร้อมกับเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ยานยนต์ พลังงานทดแทน ไอที อาทิ
- บริษัท มาสด้า ชลบุรี จำกัด (มหาชน) ซึ่งนายจเรรัฐถือหุ้นทั้ง 100% มีโชว์รูมขนาดใหญ่เป็นตัวแทนจำหน่ายรถมาสด้า รวมถึงรถ EV แบรนด์ BYD
- บริษัท เคหะสุขประชา จำกัด (มหาชน) เป็นธุรกิจร่วมทุนของการเคหะแห่งชาติ (กคช.) ถือหุ้น 49% ซึ่งนายจเรรัฐถือหุ้น 7.5% ก็มีแผนจะนำเข้า IPO โดยเป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทั้งขายและให้เช่า
- บริษัท พลังงานจูล จำกัด (มหาชน) ที่นายจเรรัฐถือหุ้นทั้ง 100% ลงทุนธุรกิจพลังงานหมุนเวียน โดยปัจจุบันได้พัฒนาพลังงานแสงอาทิตย์ 100 เมกะวัตต์ขายไฟฟ้าให้กับเอกชน
- บริษัท เอโฮสต์ จำกัด ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับด้านไอที โดยนายจเรรัฐ ถือหุ้นอยู่ 75%
พร้อมกันนี้ จเรรัฐยังได้ให้มุมมองการลงทุนทั้งในคลาดหุ้นไทย อสังหาริมทรัพย์ และทองคำ ไว้น่าสนใจผ่านมุมมองความเป็นนักลงทุนที่มีประสบการณ์ยาวนาน ไว้ใน Exclusive Interview EP นี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 พ.ค. 67)
Tags: D1, INTERVIEW, SCOOP, การเมือง, จเรรัฐ ปิงคลาศัย, ดราก้อน วัน, ตลาดหุ้น, รัฐวิสาหกิจ, หุ้นไทย