สถาบันการคลังศึกษา (IFS) ระบุในวันนี้ (31 พ.ค.) ว่า รายได้ในอังกฤษเติบโตในอัตราเพียงครึ่งหนึ่งของสหรัฐ และเติบโตน้อยกว่านั้นเมื่อเทียบกับเยอรมนี ในช่วง 12 ปีจนถึงปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงที่พรรคอนุรักษ์นิยมบริหารประเทศเป็นส่วนใหญ่
ในขณะที่การรณรงค์หาเสียงก่อนถึงกำหนดการเลือกตั้งในวันที่ 4 ก.ค.ปีนี้มุ่งเน้นไปที่เศรษฐกิจเป็นหลัก IFS ระบุว่า รายได้เฉลี่ยในอังกฤษเติบโตขึ้น 6% ระหว่างปี 2550 ซึ่งเป็นช่วงที่วิกฤตการณ์การเงินโลกเริ่มต้นขึ้น จนถึงปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงก่อนเกิดโรคโควิด-19 ระบาด
เมื่อเปรียบเทียบกัน รายได้เฉลี่ยในสหรัฐเติบโตขึ้น 12% และรายได้เฉลี่ยในเยอรมนีเติบโตขึ้น 16% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า รายได้ในอังกฤษไม่ค่อยกระเตื้องขึ้นนักในช่วงหลายปีที่ผ่านมานับตั้งแต่เกิดโรคโควิด-19 ระบาด
“แม้นานาประเทศจะเผชิญภาวะเศรษฐกิจเติบโตชะลอตัวแบบเป็นวงกว้าง แต่อังกฤษได้หลุดจากการเป็นหนึ่งในประเทศที่เศรษฐกิจเติบโตเร็วที่สุดในช่วงก่อนเกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ (Great Recession) สู่การกลายเป็นหนึ่งในประเทศที่เศรษฐกิจเติบโตอ่อนแอที่สุด” นายทอม วอเตอร์ส ผู้อำนวยการร่วมของ IFS ระบุ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ในบรรดา 14 ประเทศที่ IFS วิเคราห์ มีเพียงฝรั่งเศส สเปน และกรีซเท่านั้นที่มีผลงานแย่กว่าอังกฤษในช่วงเดียวกัน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 พ.ค. 67)