นายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทเทสลาเปิดเผยว่า เขาไม่ได้สนับสนุนประกาศล่าสุดของประธานาธิบดีโจ ไบเดนเกี่ยวกับการเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ผลิตในจีน
นายมัสก์ตอบคำถามของผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวซีเอ็นบีซีในช่วงถามตอบของการประชุมวีว่า เทค (VivaTech) ในวันพฤหัสบดี (23 พ.ค.) ว่า “ทั้งผมและเทสลาไม่เคยร้องขอให้มีการเรียกเก็บภาษีเหล่านี้ จริง ๆ แล้วผมประหลาดใจด้วยซ้ำตอนที่พวกเขาประกาศออกมา”
คณะบริหารของปธน.ไบเดนระบุเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า รัฐบาลจะเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากจีนในอัตรา 100% ซึ่งเป็นความพยายามที่จะป้องกันไม่ให้รถยนต์ไฟฟ้าราคาถูกจีนไหลทะลักเข้ามาในตลาดสหรัฐ โดยทำเนียบข่าวระบุว่า เงินอุดหนุนของรัฐบาลจีนช่วยให้บริษัทเหล่านี้สามารถผลิตผลิตภัณฑ์พลังงานสะอาดราคาถูกเกินความจำเป็น เช่น โซลาร์เซลล์ และรถยนต์ไฟฟ้า ในปริมาณที่สูงกว่าความต้องการในประเทศ
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า เทสลายังคงเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากในปีนี้ เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าที่เริ่มตกรุ่น ความต้องการรถยนต์ของเทสลาที่ซบเซาลงของผู้บริโภค และการแข่งขันทั่วโลกที่ร้อนระอุขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จากจีน โดยรายได้ของเทสลาในไตรมาสแรกหดตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2555 ขณะที่หุ้นของบริษัทร่วงลงเกือบ 30% ในปี 2567
นายมัสก์กล่าวว่า “เทสลาสามารถแข่งขันได้ค่อนข้างดีในตลาดจีน ผมไม่เห็นด้วยกับการเก็บภาษีนำเข้า แต่ในขณะเดียวกันผมก็ไม่เห็นด้วยกับการใช้มาตรการอุดหนุนของรัฐบาลจีน ซึ่งรวมถึงการอุดหนุนอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า หรือน้ำมัน หรือแก๊ส”
“ถ้าให้พูดตรง ๆ ผมคิดว่า หากไม่มีการกีดกันทางการค้า บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าจีนคงจะทำลายบริษัทอื่น ๆ ส่วนใหญ่ในโลกอย่างแน่นอน” นายมัสก์กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 พ.ค. 67)
Tags: จีน, ภาษีนำเข้า, รถ EV, รถยนต์ไฟฟ้า, สหรัฐ, อีลอน มัสก์, โจ ไบเดน