บริษัทเคาน์เตอร์พอยต์ รีเสิร์ช (Counterpoint Research) รายงานเมื่อวันจันทร์ (13 พ.ค.) ว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เพิ่มสูงขึ้นอย่างมากในปีนี้ นำโดยยอดขายที่เพิ่มขึ้นในจีนและอุปสงค์รถยนต์ไฮบริดที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษ
รายงานระบุว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก ซึ่งรวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่เต็มรูปแบบ (BEV) และรถยนต์ไฮบริด เพิ่มขึ้น 18% ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2567 เมื่อเทียบรายปี
ทั้งนี้ ยอดขายรถยนต์ไฮบริด ซึ่งมีทั้งเครื่องยนต์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์สันดาป แซงหน้ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่เต็มรูปแบบไปอย่างขาดลอย โดยมียอดขายเพิ่มขึ้น 46% เมื่อเทียบรายปี ขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่เต็มรูปแบบปรับตัวขึ้น 7%
นายอาบิค มุเคอร์จี นักวิเคราะห์จากเคาน์เตอร์พอยต์ รีเสิร์ช กล่าวว่า “ราคาที่ถูกกว่าของรถยนต์ไฮบริดเมื่อเทียบกับรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่เต็มรูปแบบและการมีถังน้ำมันที่ช่วยคลายความกังวลได้เป็นอย่างดี เป็นหนึ่งในเหตุผลหลัก ๆ ที่ทำให้รถยนต์ไฮบริดเป็นที่ต้องการสูง”
ข้อมูลข้างต้นได้รับการเปิดเผยต่อจากรายงานก่อนหน้านี้ที่บ่งชี้ว่า ยอดขายรถยนต์ไฮบริดเริ่มแซงหน้ารถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับมูลค่าการรีเซลล์ที่ลดลงของรถยนต์รุ่นก่อน และความเป็นไปได้ที่เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่เต็มรูปแบบในปัจจุบันจะล้าสมัยในอีกไม่ช้า
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า บริษัทต่าง ๆ ของจีนได้รับผลประโยชน์อย่างมหาศาลจากความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริษัทที่จำหน่ายทั้งรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่เต็มรูปแบบและรถยนต์ไฮบริด
ข้อมูลของเคาน์เตอร์พอยต์ระบุว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในจีนปรับตัวขึ้น 28% ในไตรมาส 1/2566 ท่ามกลางสงครามราคาที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ ซึ่งได้ทำให้รถยนต์มีราคาถูกลงสำหรับผู้บริโภค
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 พ.ค. 67)
Tags: รถยนต์ EV, รถยนต์ไฟฟ้า