นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอสเซทไวส์ (ASW) กล่าวว่า ในไตรมาส 2/67 บริษัทมีแผนเปิดขายคอนโดฯ 2 โครงการใหม่ มีมูลค่าโครงการรวม 2,460 ล้านบาท ได้แก่โครงการ เคฟ ลูมินัส บางมด (Kave Luminous Bangmod) 617 ยูนิต ใกล้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (บางมด) มูลค่าโครงการ 1,300 ล้านบาท และโครงการ เคฟ เจเนซิส นครปฐม (Kave Genesis Nakhonphathom) 627 ยูนิต ใกล้ศูนย์การค้าเซ็นทรัลนครปฐม และมหาวิทยาลัยศิลปากร มูลค่าโครงการ 1,160 ล้านบาท
พร้อมกันนี้บริษัทเดินหน้าสร้างรายได้ในไตรมาส 2/67 ต่อเนื่องจากการโอนกรรมสิทธิ์บ้าน และคอนโดฯรวมกัน 6 โครงการ โดยคอนโดฯ ได้แก่ เคฟ ซี้ด เกษตร (Kave Seed Kasat) ต่อเนื่องจากไตรมาสแรก, เคฟ ทาวน์ ไอส์แลนด์ (Kave Town Island) ใกล้มหาวิทยาลัยกรุงเทพ-รังสิต มูลค่าโครงการ 3,200 ล้านบาท , เคฟ ยูนิเวิร์ส บางแสน (Kave Uni.Verse Bang Saen) ห่างจากมหาวิทยาลัยบูรพาเพียง 200 เมตร มูลค่าโครงการ 520 ล้านบาท และ เดอะไทเทิล ฮาโลวัน ในยาง (The Title Halo 1 Nai yang) โครงการที่ภูเก็ต มูลค่าโครงการ 1,537 ล้านบาท ส่วนโครงการบ้านเดี่ยว ได้แก่ ดิ ออเนอร์ โยธินพัฒนา (The Honor Yothinpattana), เอสต้า ซีรีนิตี้ บรมราชชนนี (ESTA Serenity Boromratchachonnani)
“จากการที่คณะรัฐมนตรี (คร.ม.) มีมติลดค่าธรรมเนียมโอนและจดจำนองสำหรับการซื้อที่อยู่อาศัยเหลือ 0.01% ในราคาบ้านไม่เกิน 7 ล้านบาทนั้น สำหรับไตรมาส 2/67 บริษัทเตรียมพร้อมที่จะโอนกรรมสิทธิ์บ้าน และคอนโดฯ รวมกันถึง 6 โครงการ จึงน่าจะเป็นอีกไตรมาสที่ดีของบริษัทฯ รวมถึงภาพรวมรายได้ทั้งปีของบริษัทฯ เนื่องจากพอร์ตที่อยู่อาศัยเกือบทั้งหมดของ ASW ได้รับประโยชน์จากมาตรการดังกล่าว โดยจะเป็นการช่วยกระตุ้นผู้บริโภคให้เกิดการเร่งการตัดสินใจซื้อบ้าน พร้อมทั้งเร่งโอนกรรมสิทธิ์ให้จบภายในปีนี้เพื่อรับสิทธิ์ในมาตรการ” นายกรมเชษฐ์ กล่าว
สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/67 บริษัทมีรายได้รวม 1,758 ล้านบาท เป็นผลจากการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นราว 9% (YoY) รวมทั้งการโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จในไตรมาส 4/66 ที่ผ่านมา ต่อเนื่องมายังไตรมาสแรกของปีนี้ ได้แก่ โครงการเคฟ ทาวน์ โคโลนี (Kave Town Colony) ติด ม.กรุงเทพฯ มูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท , แอซโมท คาเนล รังสิต (Atmoz Kanaal Rangsit) ใจกลางรังสิต มูลค่าโครงการ 1,650 ล้านบาท เป็นแรงส่งที่ดีในการรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องของปี 66-67 ตลอดจนโครงการร่วมทุน (JV) ในโครงการเคฟ ซี้ด เกษตร (Kave Seed Kasat) มูลค่าโครงการ 1,350 ล้านบาท ซึ่งสร้างเสร็จและเริ่มรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์เร็วกว่าแผนเดิมที่วางไว้ในไตรมาส 2/67
ขณะที่กำไรสุทธิไตรมาส 1/67 ทำได้ 256 ล้านบาท ลดลง 9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) อย่างไรก็ตาม หากไม่นับรวมรายการพิเศษที่เกิดขึ้นจากการขายเงินลงทุนจากการร่วมทุน (JV) ในช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัทจะมีกำไรปกติในไตรมาส 1/67 เติบโตเพิ่มขึ้น
บริษัททำยอดขาย (Pre-sale) ไตรมาส 1/67 รวม 6,269 ล้านบาท เติบโตกว่า 65% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) คิดเป็นสัดส่วน 35% ของเป้าหมายยอดขายทั้งปีที่วางไว้ 17,800 ล้านบาท เป็นผลมาจากการตอบรับที่ดีของโครงการคอนโดฯ “เดอะไทเทิล เฮอริเทจ บางเทา” (The Title Heritage Bang-Tao) มูลค่าโครงการ 6,000 ล้านบาท จากที่เปิดขายช่วงต้นปี 2567 ปัจจุบันมียอดจองแล้วกว่า 52% และโครงการ “เดอะไทเทิล ซีรีนิตี้ ในยาง” (The Title Serenity Nai yang) มูลค่าโครงการ 4,000 ล้านบาท พัฒนาภายใต้บมจ.ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ (TITLE) บริษัทลูกของ ASW ที่ได้รับปัจจัยบวกจากภาพรวมตลาดท่องเที่ยวภูเก็ตที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 พ.ค. 67)
Tags: ASW, กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์, หุ้นไทย, แอสเซทไวส์