บรรดานักลงทุนจากบริษัทไพรเวทอิควิตี้ และผู้จัดการสินทรัพย์ทั่วโลกกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการควบรวมกิจการและการลงทุนมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ที่เกี่ยวข้องกับศูนย์ข้อมูลในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เนื่องจากกระแสปัญญาประดิษฐ์ (AI) ทำให้โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลเป็นที่ต้องการเพิ่มขึ้น
ผู้บริหารในอุตสาหกรรมระบุว่า ข้อตกลงในด้านดังกล่าวที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีขึ้น เนื่องจากประเทศและบริษัทต่าง ๆ ตอบสนองต่อความต้องการด้าน AI ที่เพิ่มขึ้น และต้องการพื้นที่เก็บข้อมูลมากขึ้น
จากข้อมูลของแอลเอสอีจี (LSEG) ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึงญี่ปุ่น เป็นผู้นำในการทำข้อตกลงในตลาดศูนย์ข้อมูลทั่วโลกในปีนี้ โดยมีมูลค่าการควบรวมกิจการทั้งสิ้น 840.47 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเกินกว่าครึ่งหนึ่งของมูลค่าทั้งหมดทั่วโลก
LSEG ระบุว่า ในปี 2566 ธุรกรรมด้านศูนย์ข้อมูลในภูมิภาคพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3.45 พันล้านดอลลาร์ โดยตัวเลขดังกล่าวคาดว่าจะถูกแซงในปีนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากธุรกรรมขนาดใหญ่อย่างน้อย 2-3 รายการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ
แหล่งข่าวใกล้ชิดเปิดเผยว่า ผู้สนับสนุนด้านการเงินจำนวนมาก รวมถึงยักษ์ใหญ่อย่างแบล็กสโตน (Blackstone) กำลังเล็งเข้าซื้อกิจการแอร์ทรังก์ (AirTrunk) ซึ่งเป็นเจ้าของศูนย์ข้อมูลระดับไฮเปอร์สเกล 11 แห่งในออสเตรเลีย และในประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า แมคควารี กรุ๊ป (Macquarie Group) ซึ่งเป็นเจ้าของแอร์ทรังก์ และคณะกรรมการการลงทุนบำเหน็จบำนาญภาครัฐ (PSP) ของแคนาดาตั้งเป้าที่จะประเมินมูลค่าธุรกิจแอร์ทรังก์สูงถึง 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (9.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งอาจเป็นมูลค่าของธุรกรรมที่เกี่ยวกับศูนย์ข้อมูลที่สูงสุดในเอเชียในปีนี้
อย่างไรก็ดี แอร์ทรังก์, แบล็กสโตน, แมคควารี และพีเอสพี ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นใด ๆ เกี่ยวกับรายงานข่าวนี้
“การปฏิวัติด้าน AI กำลังทำให้ความต้องการศูนย์ข้อมูลคุณภาพสูงเพิ่มขึ้นในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน” นายการ์เรน โครนิน กรรมการผู้จัดการบริษัทคาเดนซ์ แอดไวซอรี่ (Cadence Advisory) กล่าว โดยคาเดนซ์ แอดไวซอรี่ เป็นผู้ให้คำแนะนำแก่ NEXTDC ซึ่งเป็นผู้ประกอบการศูนย์ข้อมูลของออสเตรเลียในการระดมทุน 861 ล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา
“ศูนย์ข้อมูลใหม่ที่ต้องสร้างในเอเชียแปซิฟิกในช่วง 3-5 ปีข้างหน้านั้นจะมีจำนวนมาก ผมคาดว่าจะมีข้อตกลงเพิ่มมากขึ้นในปี 2567”
การลงทุนด้านศูนย์ข้อมูลที่เพิ่มขึ้นในเอเชียสอดคล้องกับแนวทางการลงทุนในสหรัฐและยุโรป โดยบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี เช่น ไมโครซอฟท์, อะเมซอน (Amazon), กูเกิล (Google) และเมตา แพลตฟอร์มส์ (Meta Platforms) ได้ขยายขีดความสามารถด้าน AI อย่างรวดเร็ว
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ได้ประกาศทุ่มเม็ดเงินลงทุน 2.2 พันล้านดอลลาร์ตลอดช่วง 4 ปีข้างหน้าในมาเลเซีย เพื่อขยายบริการคลาวด์และ AI ทั่วเอเชีย
ขณะเดียวกัน เมื่อวันพุธ (1 พ.ค.) ไมโครซอฟท์เปิดเผยว่า บริษัทจะเปิดศูนย์ข้อมูลเอเชียแห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งมีขึ้นหนึ่งวันหลังบริษัทประกาศการลงทุนมูลค่า 1.7 พันล้านดอลลาร์ในด้าน AI และระบบคลาวด์ในประเทศเพื่อนบ้านอย่างอินโดนีเซีย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 พ.ค. 67)
Tags: AI, ปัญญาประดิษฐ์