หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าปรับขึ้นตามตลาดตปท.รับตัวเลขแรงงานสหรัฐต่ำ หนุนเฟดลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง

นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่าแนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดดัชนีปรับตัวขึ้นตามตลาดต่างประเทศ โดยวันจันทร์ที่ตลาดหุ้นไทยหยุด ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวบวกได้แรงหนุนหลังจากการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐต่ำกว่าคาด กระตุ้นให้นักลงทุนปรับเพิ่มการคาดการณ์เล็กน้อยว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. หรือมีความหวังว่าอาจจะลดดอกเบี้ยได้ 2 ครั้งในปีนี้

นายศราวุธ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) 2 รายให้ความเห็นว่าอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันอยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งจากความเห็นดังกล่าวอาจสะท้อนว่าหากตัวเลขทางเศรษฐกิจเริ่มชะลอลง อาจทำให้เงินเฟ้อสหรัฐช่วงครึ่งปีหลังค่อย ๆ ดีขึ้น

ขณะที่เงินเฟ้อไทยเดือนเม.ย.ขยับขึ้น จากราคาสินค้าที่ปรับขึ้น รวมทั้งราคาพลังงาน ดีเซลที่ปรับขึ้นสูงกว่าที่รัฐบาลอุดหนุน เป็นสัญญาณบวกต่อเงินเฟ้อในช่วงครึ่งหลัง รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล อาทิโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ยิ่งเป็นปัจจัยหนุนให้เงินเฟ้อกลับมา

ทั้งนี้คาดว่าวันนี้จะมีแรงซื้อเก็งกำไรในหุ้นค้าปลีก อาทิ CPALL CPAXT หุ้นที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ย เช่น กลุ่มการเงิน และกลุ่มโรงไฟฟ้า โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี และค่าเงินดอลลาร์เริ่มอ่อนลง และเงินบาทเริ่มแข็งค่าเป็นสัญญาณบวก

โดยให้กรอบแนวรับ 1,355 จุด และแนวต้าน 1,387 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (6 พ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,852.27 จุด เพิ่มขึ้น 176.59 จุด หรือ +0.46%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,180.74 จุด เพิ่มขึ้น 52.95 จุด หรือ +1.03% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,349.25 จุด เพิ่มขึ้น 192.92 จุด หรือ +1.19%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีฮั่งเส็งเปิดตลาดที่ระดับ 18,577.55 จุด ลดลง 0.75 จุด หรือ -0.004% ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดตลาดที่ระดับ 3,139.66 จุด ลดลง 1.06 จุด หรือ -0.03% ส่วนดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 38,636.23 จุด เพิ่มขึ้น 400.16 จุด หรือ +1.05%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (3 พ.ค.) 1,369.92 จุด เพิ่มขึ้น 6.67 จุด (+0.49%) มูลค่าการซื้อขาย 37,541.17 ล้านบาท

– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,447.93 ล้านบาท (3 พ.ค.)

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. (6 พ.ค) เพิ่มขึ้น 37 เซนต์ หรือ 0.47% ปิดที่ 78.48 ดอลลาร์/บาร์เรล

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (6 พ.ค.) อยู่ที่ 3.50 เหรียญ/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 36.76 แข็งค่ารับดอลลาร์อ่อนค่าหลังตัวเลขจ้างงานฯสหรัฐแย่กว่าคาด

– “เศรษฐา” ลั่นไม่เคยคิดแก้กฎหมายลดอำนาจผู้ว่าการ ธปท. แต่อนาคตไม่ทราบ เหตุเป็นหน้าที่คลัง ย้ำไม่เคยกดดันให้ลาออก หรือพูดว่าจะปลด “เผ่าภูมิ” ป้อง “อุ๊งอิ๊ง” ชี้เมื่อกังขาในประสิทธิภาพของแบงก์ชาติ มีสิทธิ์ตั้งคำถามได้ “สมชัย” บอกแบงก์ชาติวิจารณ์ได้ แต่ต้องปราศจากอคติ มีเหตุผล หากวิจารณ์แบบตื้นเขิน ต้องถูกวิจารณ์กลับ ปชป.ยันค้านแน่ หากรัฐบาลแก้ พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย ลดความเป็นอิสระ ลดอำนาจธนาคารกลาง เหตุจะสร้างความเสียหายให้ประเทศ “ประสาร” ร่วมค้านด้วย ชี้ พ.ร.บ.ฉบับล่าสุด ดีอยู่แล้ว ใช้หลักเดียวกับทั่วโลก ให้อำนาจ ธปท.อยู่เหนือการเมือง “ธีระชัย” ชี้รัฐบาลไม่ทำให้ ธปท.ไว้ใจ ดึงดันกู้มาแจก พูดคนละภาษา จึงคุยกันยาก

– คลังเล็งอัดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม รักษาโมเมนตัม หลังดิจิทัลวอลเล็ต 5 แสนล้านบาท กระชากเศรษฐกิจ ย้ำทุกเม็ดเกิดความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ ด้านอธิบดีกรมศุลกากรเตรียมเสนอ ครม. เก็บแวต 7% นำเข้าสินค้าต่ำกว่า 1,500 บาท สั่งทุกด่านศุลกากรรับมือ เน้นสร้างความเป็นธรรมมากกว่าหารายได้ ชี้ยอดนำเข้าสินค้าราคาต่ำสูงเกือบ 60 ล้านห่อ มูลค่ารวม 1.8 หมื่นล้านบาท

– “ดีเอสไอ-สอบสวนกลาง” สั่งฟ้องผู้ต้องหา 42 ราย ฐานความผิด “อั้งยี่ ซ่องโจร” พ่วงจากคดี “ฉ้อโกง” บริษัทหลักทรัพย์ฯ มูลค่า 4,500 ล้านบาท และปั่นหุ้น MORE มูลค่าเสียหาย 800 ล้านบาท วงการกฎหมายตะลึง! ชี้ชัดเป็นคดีแรกที่ตั้งข้อหา “อั้งยี่” ในฐานความผิดเกี่ยวกับตลาดทุนไทย เชื่อเป็นการสร้างบรรทัดฐานใหม่ในการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการ “ปั่นหุ้น” และ “ฉ้อโกง” ต่อไป

– ผลผลิตอุตสาหกรรมติดลบ 18 เดือน ส.อ.ท.ชี้แรงกดดันจากภูมิรัฐศาสตร์ สินค้าจีนล้นอาเซียน หนี้ครัวเรือน สินค้าเลี่ยงภาษี สินค้าไทยสู้คู่แข่งไม่ได้ อุปสรรคใหญ่ต่อการตัดสินใจลงทุนเพิ่ม “นักเศรษฐศาสตร์” ชี้ภาคการผลิตชะลอสะท้อนเศรษฐกิจไทยอ่อนแอ “เคเคพี” หวั่นฉุดเศรษฐกิจครึ่งแรก โตต่ำกว่าเป้าหมาย “ซีไอเอ็มบีไทย” คาดภาคผลิต ไม่ฟื้นกดจีดีพีไตรมาสแรกต่ำกว่า 0.8%

– เลขาธิการอีอีซี มั่นใจไฮสปีด 3 สนามบิน มีทางออก เดินหน้าต่อได้ คาดเจรจาจบภายใน 1-2 เดือนนี้ วงในเผยเดดไลน์ 22 พ.ค.67 หมดเวลาบัตรส่งเสริมบีโอไอ รฟท.หารือ ซีพี. ตัดเงื่อนไข เร่งออกหนังสือ ให้เอกชนเริ่มงาน (NTP) พร้อมชง กพอ. แก้สัญญาร่วมทุน

หุ้นเด่นวันนี้

– MTC (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐานที่ 52.0 บาท คาดกลุ่มการเงินได้ sentiment บวกจากภาพ bond yield ที่ปรับตัวลดลง โดยเฉพาะ MTC ที่เป็นtop pick ของกลุ่ม ทั้งนี้เราคาด MTC รายงานกำไรไตรมาส 1/67 ที่ 1.3 พันลบ. ทรงตัว QoQ แต่ขยายตัวแรงกว่า 20% YoY และหากมองไปข้างหน้าแนวโน้มของกำไรจะปรับตัวดีขึ้นต่อโดยเฉพาะในไตรมาส 2/67 ที่ประเมินกำไรจะขยายตัวได้ทั้ง QoQ และ YoY จากสินเชื่อที่เติบโตขึ้น และ cost to income ที่ลดลง

– ERW (ลิเบอเรเตอร์) ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 6 บาท คาดกำไรหลักไตรมาส 1/67 จะเติบโตอย่างโดดเด่น ตามการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวไทย โดยคาดค่าเฉลี่ยราคาห้องพักปรับตัวขึ้นได้ทั้ง q-q & y-y ผสานกับอัตราการเข้าพักที่คาดจะอยู่ในระดับสูงใกล้ช่วงไตรมาส 4/66 ส่งผลบวกต่อ RevPar เพิ่มขึ้น ส่วนด้าน Valuation ปัจจุบันเทรด EV/EBITDA ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต และต่ำกว่ากลุ่ม ดังนั้นถือเป็นจังหวะที่ดีในการทยอยสะสม

– GPSC (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 60.00 บาท แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 1/67 คาดกำไรฟื้นตัว QoQ เป็นผลจากปริมาณขายไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นทั้ง IPP และ SPP รวมถึงการปรับขึ้นค่า Ft งวด ม.ค.-เม.ย.67 ประกอบกับต้นทุนเชื้อเพลิงและค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานที่ลดต่ำลงตามฤดูกาล ช่วยหนุนอัตรากำไรดีขึ้น ส่วนใน 2Q67 คาดกำไรเข้าสู่ช่วง high season ความต้องการใช้ไฟฟ้าช่วงฤดูร้อน นอกจากนี้ช่วงสั้นจะได้ sentiment บวกจาก Bond Yield ที่ปรับลดลง ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรสุทธิปี 67 อยู่ที่ 5.1 พันล้านบาท +35%YoY

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 พ.ค. 67)

Tags: , ,