รมต.ป้ายแดง พร้อมเข้าเฝ้าถวายสัตย์ฯ ก่อนปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการ

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ถึงบรรยากาศที่รัฐมนตรีชุดใหม่ เดินทางมาถ่ายรูปติดบัตรรัฐมนตรี รวมทั้งหมด 12 คน โดยในจำนวนนี้ เป็นรัฐมนตรีหน้าใหม่ที่เพิ่งเข้ามาร่วมรัฐบาล 7 คน ประกอบด้วย 1.นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง 2.นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง 3. นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ 4. นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรและสหกรณ์ 5.นายสุชาติ ชมกลิ่น เป็น รมช.พาณิชย์ 6. นายพิชิต ชื่นบาน รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ 7.น.ส.จิราพร สินธุไพร เป็น รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

ส่วนที่เหลืออีก 5 คน เป็นการเพิ่มและปรับเปลี่ยนตำแหน่ง โดยทั้งหมดเตรียมเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณตนในเวลา 18.00 น. วันนี้ ก่อนเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ

นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ เปิดเผยความรู้สึกถึงการกลับมาทำเนียบรัฐบาลในรอบ 7 เดือนว่า ยังคงทำงานเพื่อประเทศชาติบ้านเมืองเหมือนเดิม และไม่ได้ยึดติดตำแหน่ง แม้ที่ผ่านมาจะเป็น รมว.แรงงาน โดยมองว่า เป็นการเข้ามาทำงานเพื่อประเทศชาติ ไม่ใช่ทำเพื่อตัวเอง และถือเป็นการเรียนรู้งานในกระทรวงเศรษฐกิจอีกกระทรวงหนึ่ง แม้เนื้องานจะค่อนข้างต่างกัน

“เมื่อแรงงานดี เกษตรดี ค้าขายดี ประเทศก็เจริญ ซึ่งถือเป็นหัวใจหลัก” นายสุชาติ กล่าว

อย่างไรก็ดี ขณะนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องการทำงานกับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ แต่ตนยินดีที่จะร่วมงานกับนายภูมิธรรมด้วยความตั้งใจจริง ซึ่งนายภูมิธรรม เป็นผู้ใหญ่ที่ตนให้ความเคารพมานานนับ 10 ปี

นายสุชาติ กล่าวด้วยว่า ไม่รู้สึกเกร็งในการทำงานร่วมกับรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน แม้ที่ผ่านมาตนจะเคยร่วมรัฐบาลกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาก็ตาม ทั้งนี้มองว่านายเศรษฐา เป็นคนที่ตั้งใจและเป็นคนเก่ง ได้พูดคุยกันในเรื่องวิสัยทัศน์ สไตล์การทำงานที่รวดเร็ว ถึงลูกถึงคน และเป็นคนชัดเจน

ส่วนที่ยังมีหลายเรื่องที่อยู่ในการฟ้องร้องจากการทำงานกับรัฐบาลชุดก่อนนั้น นายสุชาติ กล่าวว่า เรื่องคดีเรื่องฟ้องร้องต่างๆ เป็นการกล่าวหา เรื่องที่อยู่ในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก็ต้องพิสูจน์ข้อเท็จจริง และเชื่อในกระบวนการยุติธรรม

ด้านน.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม ยืนยันว่า พร้อมทำงานในกระทรวงวัฒนธรรม โดยเชื่อว่า นายกรัฐมนตรีได้พิจารณาถึงความเหมาะสมแล้ว ว่าบุคคลใดควรจะทำงานตรงไหน อย่างไรก็ดี เห็นว่างานในส่วนของกระทรวงวัฒนธรรม ก็มีความเกี่ยวข้องกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งที่ผ่านมาก็ทำงานร่วมกันอยู่แล้ว

ขณะที่นายจักรพงษ์ แสงมณี รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นสายตรงนายกรัฐมนตรี หลังได้ขึ้นจากตำแหน่ง รมช.ต่างประเทศ เป็น รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่า ตนอยู่กับพรรรคเพื่อไทยมา 14 ปีแล้ว และทำงานอยู่เบื้องหลังมาตลอดตั้งแต่ปี 2554 เป็นกรรมการบริหารพรรค และถือว่าทำงานมาตลอด

ส่วนการทำงานในตำแหน่ง รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นั้น หากดูตามความถนัด ในเรื่องงบประมาณก็พอทำได้ เพราะดูงบประมาณมาตั้งแต่ปี 62 และดูงบประมาณของพรรคมาตลอด อย่างไรก็ดี คงต้องขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีที่จะตัดสินใจ

พร้อมยืนยันว่า ไม่มีปัญหาในระหว่างการทำงานร่วมกับนายปานปรีย์ พหิทธานุกร ในช่วงที่เป็น รมว.ต่างประเทศ อย่างไรก็ดี ตั้งแต่นายปานปรีย์ ยื่นลาออกจากทุกตำแหน่ง ก็ยังไม่ได้มีโอกาสพูดคุยกัน

ด้านน.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนเข้าถ่ายรูปติดบัตรประจำตัว โดยยอมรับว่า การเข้าเป็นรัฐมนตรีครั้งแรกรู้สึกตื่นเต้นเป็นธรรมดา ตอนนี้ได้เปลี่ยนบทบาทจากฝ่ายนิติบัญญัติมาอยู่ฝ่ายบริหารแล้ว ดังนั้นจึงมีหลายอย่างต้องเตรียมตัว

ส่วนที่ได้ประกาศในที่ประชุมพรรคเพื่อไทยว่าจะตั้งสถานีโทรทัศน์สนับสนุนซอฟพาวเวอร์นั้น น.ส.จิราพร กล่าวว่า จะต้องไปดูรายละเอียดกับทีมงานและคนที่ทำนโยบายร่วมกันว่าจะสามารถใช้ทรัพยากรส่วนไหนมาดำเนินการ โดยจะแจ้งรายละเอียดให้ทราบอีกครั้ง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 พ.ค. 67)

Tags: