ทำเนียบขาวยืนยันว่า สหรัฐจะไม่ยกเลิกข้อจำกัดการเดินทางที่บังคับใช้อยู่ในขณะนี้ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตา ซึ่งทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของสหรัฐเพิ่มสูงขึ้น
การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นหลังการประชุมระดับสูงของทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งระบุว่า ข้อจำกัดการเดินทางระยะยาวจะยังไม่ถูกยกเลิกในเร็ววันนี้
“ณ จุดที่เราอยู่ในปัจจุบันนี้…ด้วยการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตา เราจะคงข้อจำกัดการเดินทางเอาไว้เช่นเดิม” นางเจน ซากี โฆษกหญิงของทำเนียบขาวกล่าว โดยอ้างถึงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาในสหรัฐและต่างประเทศ “ไวรัสสายพันธุ์เดลตาทำให้จำนวนผู้ป่วยในสหรัฐเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่ผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า”
การประกาศดังกล่าวถือเป็นข่าวร้ายของอุตสาหกรรมสายการบินและการท่องเที่ยวของสหรัฐที่หวังว่าได้ลูกค้าต่างชาติในช่วงฤดูร้อนนี้ โดยสายการบินต่างๆ พยายามโน้มน้าวทำเนียบขาวเป็นเวลาหลายเดือนเพื่อให้ยกเลิกข้อจำกัดดังกล่าว ซึ่งคาดการณ์กันว่า อุตสาหกรรมเหล่านี้อาจต้องรอจนถึงเดือนกันยายนหรือหลังจากนั้นเพื่อที่จะมีการแก้ไขกฎเกณฑ์ได้
ปัจจุบัน สหรัฐได้ห้ามพลเมืองที่ไม่ใช่ชาวอเมริกันส่วนใหญ่เข้าประเทศ ซึ่งรวมถึงผู้ที่อยู่ในสหราชอาณาจักรเป็นเวลาอย่างน้อย 14 วัน และผู้ที่เดินทางมาจาก 26 ประเทศในกลุ่มเชงเก้นในยุโรปที่ไม่มีการควบคุมชายแดนภายใน หรือในไอร์แลนด์ จีน อินเดีย แอฟริกาใต้ อิหร่าน และบราซิล
รายงานระบุว่า คณะบริหารของปธน.โจ ไบเดน ได้พูดคุยกับบรรดาสายการบินสหรัฐในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เกี่ยวกับการดำเนินการติดตามผู้โดยสารที่มีความเสี่ยงสัมผัสโรค เพื่อประเมินผลกระทบในทุกๆด้านก่อนที่จะตัดสินใจยกเลิกข้อจำกัดการเดินทางในวันข้างหน้า
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ก.ค. 64)
Tags: COVID-19, การเดินทางระหว่างประเทศ, สหรัฐ, โควิด-19, โควิดสายพันธุ์เดลตา