ตุรกียุติการค้าทั้งหมดกับอิสราเอล อ้างสถานการณ์ในปาเลสไตน์ย่ำแย่ลง

กระทรวงการค้าของตุรกีเปิดเผยว่า ตุรกีได้ยุติการส่งออกและนำเข้าทั้งหมดกับอิสราเอลเมื่อวานนี้ (2 พ.ค.) โดยระบุถึงโศกนาฏกรรมด้านมนุษยธรรมที่เลวร้ายลงในดินแดนต่าง ๆ ของปาเลสไตน์

แถลงการณ์ระบุว่า ตุรกีได้ยุติการทำธุรกรรมส่งออกและนำเข้าที่เกี่ยวข้องกับอิสราเอลแล้ว ซึ่งครอบคลุมถึงผลิตภัณฑ์ทั้งหมด

กระทรวงฯ ระบุเสริมว่า “ตุรกีจะใช้มาตรการใหม่เหล่านี้อย่างเคร่งครัดจนกว่ารัฐบาลอิสราเอลจะอนุญาตให้มีการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปยังฉนวนกาซาได้อย่างต่อเนื่องและเพียงพอ”

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ตุรกีและอิสราเอลมีปริมาณการค้าที่ระดับ 6.8 พันล้านดอลลาร์ในปี 2566 โดยในเดือนเม.ย. ตุรกีได้บังคับใช้มาตรการจำกัดการค้าขายกับอิสราเอล เนื่องจากอิสราเอลปฏิเสธไม่ให้ตุรกีมีส่วนร่วมในปฏิบัติการส่งความช่วยเหลือทางอากาศให้กับฉนวนกาซา

เมื่อเช้าวานนี้ นายอิสราเอล แคตซ์ รัฐมนตรีต่างประเทศของอิสราเอลได้ระบุว่า นายเรเจป ไตยิป แอร์โดอัน ประธานาธิบดีตุรกี กำลังฝ่าฝืนข้อตกลงโดยการปิดกั้นท่าเรือสำหรับการนำเข้าและส่งออกของอิสราเอล โดยเขาโพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า “นี่คือพฤติกรรมของเผด็จการ โดยไม่สนใจผลประโยชน์ของประชาชนและนักธุรกิจชาวตุรกี และไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศ”

นอกจากนี้ นายแคตซ์เปิดเผยว่า เขาได้สั่งให้กระทรวงการต่างประเทศอิสราเอลดำเนินการเพื่อหาทางเลือกทางการค้า โดยเน้นไปที่การผลิตในประเทศและการนำเข้าจากประเทศอื่น ๆ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 พ.ค. 67)