ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันจันทร์ (29 เม.ย.) แต่ปิดต่ำกว่าระดับสูงของวัน หลังเยอรมนีเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่สูงเกินคาด ขณะที่หุ้นดอยซ์ แบงก์ร่วงลงรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 1 ปี เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการเข้าซื้อกิจการโพสต์แบงก์
- ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 508.34 จุด เพิ่มขึ้น 0.36 จุด หรือ +0.07%
- ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,065.15 จุด ลดลง 23.09 จุด หรือ -0.29%,
- ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 18,118.32 จุด ลดลง 42.69 จุด หรือ -0.24% และ
- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,147.03 จุด เพิ่มขึ้น 7.20 จุด หรือ +0.09%
ตลาดหุ้นยุโรปลดช่วงบวกลงโดยยังคงถูกกดดันจากอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูง, ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB)
บรรดานักลงทุนปรับตัวรับคาดการณ์ที่ว่า ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยราว 0.66% ภายในสิ้นปีนี้
ตลาดหุ้นเยอรมนีปรับตัวลง หลังเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นในเดือนเม.ย. เนื่องจากราคาอาหารแพงขึ้น และราคาพลังงานลดลงน้อยกว่าในเดือนก่อน ๆ
หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 เดือน โดยหุ้นฟิลิปส์ของเนเธอร์แลนด์พุ่ง 29% หลังเปิดเผยว่าบริษัทจ่ายเงินชดเชยน้อยกว่าคาดสำหรับการเรียกคืนอุปกรณ์ช่วยหายใจในสหรัฐ
แต่หุ้นดอยซ์ แบงก์ ร่วง 8.6% หลังธนาคารรายงานว่าต้องตั้งสำรองเงินสำหรับค่าใช้จ่ายด้านการฟ้องร้องเกี่ยวกับการซื้อกิจการธนาคารโพสต์แบงก์ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรในไตรมาสสองและทั้งปี
นักลงทุนจะรอดูผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้ และมองหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 เม.ย. 67)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นยุโรป