แบงก์ ออฟ อเมริกา (BofA) บริษัทวาณิชธนกิจและผู้ให้บริการการเงินข้ามชาติจากสหรัฐ มีมุมมองเชิงลบต่อเงินตราบางสกุลในเอเชีย ขณะที่บางสกุลเงินอยู่ในระดับปานกลาง พร้อมระบุว่านี่คือจุดเริ่มต้นของยุคปั่นป่วน
แบงก์ ออฟ อเมริกา จัดให้สกุลเงินหยวนของจีน วอนของเกาหลีใต้ ดอลลาร์ไต้หวัน บาทของไทย ด่องของเวียดนาม อยู่ในหมวดอ่อนแอ
ส่วนสกุลเงินที่ถูกจัดอยู่ในหมวดปานกลางได้แก่ ดอลลาร์ฮ่องกง รูเปียห์ของอินโดนีเซีย รูปีของอินเดีย ริงกิตของมาเลเซีย เปโซฟิลิปปินส์ และดอลลาร์สิงคโปร์
“เราไม่มีมุมมองบวกต่อสกุลเงินใดในเอเชีย” แบงก์ ออฟ อเมริกา ระบุในรายงานที่เผยแพร่เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยระบุว่า สกุลเงินต่าง ๆ จำนวนมากได้รับผลกระทบจากการชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และการแข็งค่าอย่างต่อเนื่องของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
แบงก์ ออฟ อเมริกา คาดการณ์ว่า เงินหยวนจะซื้อขายที่ 7.35 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐในไตรมาส 2/2567 และอ่อนค่าลงสู่ระดับ 7.45 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐในไตรมาส 3-4/2567
แบงก์ ออฟ อเมริกา คาดการณ์ว่า เงินหยวนจะเผชิญแรงกดดันต่อเนื่องไปจนถึงช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โดยถูกกดดันจากการชะลอการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของเฟด, ภาวะเงินเฟ้อลดลง (Disinflation) ของจีนที่ขยายส่วนต่างผลตอบแทนระหว่างจีนกับสหรัฐ และบัญชีการเงิน (Financial Account) ที่อ่อนแอของจีน อันเนื่องมาจากการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ทรุดตัวลง
เงินเฟ้อที่ร้อนแรงกว่าที่คาดการณ์ในเดือนมี.ค.ของสหรัฐทำให้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะเลื่อนการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายออกไปเป็นเดือนก.ย. และขณะนี้คาดการณ์ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยนโยบายครั้งละ 0.25% เพียง 2 ครั้งในปีนี้จากก่อนหน้านี้คาดการณ์ว่าจะลด 3 ครั้ง
ปัจจุบันเงินหยวนออนชอร์ซื้อขายที่ 7.24 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ
ส่วนเงินบาทของไทยยังคงเผชิญความเสี่ยงจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ผ่านราคาน้ำมันและต้นทุนค่าระวางที่แพงขึ้น โดยแบงก์ ออฟ อเมริกา คาดการณ์ว่า เงินบาทไทยจะอยู่ที่ระดับ 37 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐภายในสิ้นปีนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 เม.ย. 67)
Tags: BofA, สกุลเงิน, สหรัฐ, เอเชีย, แบงก์ ออฟ อเมริกา