สำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์ในวันนี้ (23 เม.ย.) ว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) จะเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในปี 2567 แม้ว่าตลาดบางแห่งอาจเผชิญแรงต้านต่อเศรษฐกิจก็ตาม โดยราคาที่จับต้องได้และโครงสร้างพื้นฐานในการชาร์จถือเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเติบโตของตลาด EV ในอนาคต
รายงานระบุว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าจะสูงถึง 17 ล้านคันในปี 2567 เทียบกับ 14 ล้านคันในปี 2566 โดยรถยนต์มากกว่า 1 ใน 5 ที่ขายทั่วโลกจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า และคาดว่ารถยนต์ไฟฟ้าราว 10 ล้านคันจากทั้งหมดจะจำหน่ายในประเทศจีน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า IEA ระบุว่า อัตรากำไรที่ตึงตัว ราคาโลหะที่ใช้ผลิตแบตเตอรี่ซึ่งมีความผันผวน อัตราเงินเฟ้อในระดับสูง และการยุติมาตรการจูงใจในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าในบางประเทศ ส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า อย่างไรก็ดี ข้อมูลยอดขายทั่วโลกยังคงแข็งแกร่ง
ข้อมูลระบุว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในไตรมาส 1/2567 เพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบเป็นรายปี แม้ว่าอัตราการเติบโตดังกล่าวไม่ได้เปลี่ยนแปลงจากอัตราการเติบโตในไตรมาส 1/2566 เมื่อเทียบเป็นรายปี แต่ก็ยังถือว่าเติบโตสดใสท่ามกลางจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าที่เต็มท้องถนนแล้ว นอกจากนี้ ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในไตรมาส 1/2567 ยังเท่ากับยอดขายรวมตลอดทั้งปี 2563
ทั้งนี้ IEA คาดการณ์ว่า ส่วนแบ่งตลาดของรถยนต์ไฟฟ้าเมื่อเทียบกับยอดขายรถยนต์ทั้งหมดจะแตกต่างกันไปตามภูมิภาค โดยยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าจะมีสัดส่วนราว 1 ใน 9 ของยอดขายรถทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา, 1 ใน 4 ในยุโรป และเกือบครึ่งหนึ่งในจีน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 เม.ย. 67)
Tags: EV, รถยนต์ไฟฟ้า, สำนักงานพลังงานสากล