ข้อมูลของทางการสิงคโปร์ระบุในวันนี้ (23 เม.ย.) ว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของสิงคโปร์ซึ่งไม่รวมค่าใช้จ่ายด้านการขนส่งส่วนบุคคลและที่พักอาศัยอยู่ที่ 3.1% ในเดือนมี.ค. 2567 เมื่อเทียบเป็นรายปี ต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ในผลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ที่ 3.5% และต่ำกว่าระดับ 3.6% ของเดือนก.พ.
ด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนมี.ค.อยู่ที่ 2.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 3% เช่นกัน
ธนาคารกลางและกระทรวงการค้าของสิงคโปร์ออกแถลงการณ์ร่วมโดยระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้เงินเฟ้อพื้นฐานลดลงในเดือนมี.ค.เกิดจากเงินเฟ้อด้านอาหารและบริการที่ลดลง
แม้ว่าเงินเฟ้อลดลงจากจุดสูงสุดที่ 5.5% ในเดือนม.ค.ปีที่แล้ว แต่ก็ยังคงอยู่ที่ระดับสูงท่ามกลางการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทั้งนี้ เงินเฟ้อเคยแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือนเมื่อเดือนก.พ.
อนึ่ง ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของสิงคโปร์เติบโต 1.1% ตลอดทั้งปี 2566 โดยชะลอตัวลงจากระดับ 3.8% ในปี 2565 ขณะที่สิงคโปร์คาดการณ์ว่า GDP จะเติบโต 1% ถึง 3% ในปีนี้ แต่เตือนว่า แนวโน้มทางเศรษฐกิจยังคงมีทั้งด้านบวกและลบ อันเนื่องมาจากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์
ในเดือนนี้ ธนาคารกลางสิงคโปร์ยังคงนโยบายการเงินไม่เปลี่ยนแปลงในการทบทวนครั้งที่สองของปีนี้ โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2567 ธนาคารกลางได้เพิ่มความถี่ในการทบทวนจากปีละสองครั้งเป็นไตรมาสละครั้ง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 เม.ย. 67)