ราคาหุ้น OSP พุ่ง 2.46% เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มาที่ 20.80 บาท มูลค่าซื้อขาย 198.87 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.30 น. จากราคาเปิด 20.60 บาท ราคาสูงสุด 20.90 บาท ราคาต่ำสุด 20.60 บาท
บล.กสิกรไทย ระบุว่า บมจ.โอสถสภา (OSP) อัพเดทข้อมูลการดำเนินการในที่ประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ จากข้อมูลทำให้เราคาดว่าบริษัทจะสามารถรายงานผลประกอบการ Q1/24 แข็งแกร่งโดยเติบโตแรงถึง +30.9% QoQ และ +48.9% YoY แตะ
ทั้งนี้ เรามองตัวเลข earnings preview Q1/24 ดูแข็งแกร่งกว่าที่ตลาดประเมินไว้ก่อนหน้านี้มาก ด้าน valuation ราคาหุ้นปรับตัวลง 8.97% YTD เทียบกับ SET ที่ลดลง 5.92% ทำให้ OSP ซื้อขายด้วย PER ปี 2024 ที่ 20x ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตถึง -2SD
บล.กรุงศรี พัฒนสิน มีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มกำไรปกติในไตรมาส 1/67 ของ OSP คาดกำไรที่ 810 ล้านบาท (+70% YoY, +37% QoQ) กลับมาโตดีที่สุดในรอบ 9 ไตรมาส ปัจจัยหนุนหลักจาก ธุรกิจเครื่องดื่มต่างประเทศคาดเพิ่มขึ้น +25% YoY, +83% QoQ โดยเฉพาะเมียนมาเติบโตโดดเด่น อานิสงส์หน้าร้อน สวนทางกับความกังวลด้านสถานการณ์สู้รบภายในประเทศ ขณะที่เครื่องดื่มภายในประเทศ market share Energy drink 46.4% เพิ่มขึ้น +50bps QoQ
รวมทั้งคาดว่า GPM เพิ่มขึ้น YoY และ QoQ เพราะต้นทุนลด และ cost efficiency เพิ่ม หลังปิดโรงงานและขายธุรกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักและ SG&A/sales ลดลง จากยอดขายที่โตในอัตราเร่งสูง ขณะที่ค่าใช้จ่ายทรงตัว
สำหรับแนวโน้มไตรมาส 2/67 คาดโต YoY จากฐานต่ำ และทรงตัว QoQ ในระดับสูง อานิสงส์หน้าร้อน อย่างไรก็ตามคาด H1/67 ดีกว่า H2/67 เพราะช่วงต้นปีอากาศร้อนกว่า ขณะที่ ไตรมาส 3/67 เข้าฤดูฝนเป็น Low season จึงยังคงประมาณการกำไรปกติปี 67 ที่ 2.8 พันลบ. (+30%YoY) ณ ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ P/E ราว 21.5x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยถึง -2.75SD จึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมาย 31 บ.
ขณะที่ บล.ดาโอ ปรับคำแนะนำจาก “ถือ” ที่ 22.00 บาท ขึ้นเป็น “ซื้อ” และปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 28 บาท สะท้อนการฟื้นตัวของ market share ของ energy drink ในประเทศที่ดีกว่าคาด และรายได้เมียนมา ซึ่งเติบโตสวนกระแสความไม่สงบในเมียนมา ทั้งนี้เราประเมินกำไรสุทธิ ไตรมาส 1/67 ที่ 841 ล้านบาท (+8% YoY, +94% QoQ)
โดยในไตรมาส 1/67 มี special dividend จาก บริษัท ยูนิชาร์ม (ประเทศไทย) จำกัด (ยูนิชาร์ม) ที่ 300 ล้านบาท ขณะที่กำไรขยายตัว YoY จาก
1.รายได้รวมขยายตัว +10% YoY เพิ่มขึ้นจากรายได้ domestic beverage และ รายได้ธุรกิจในต่างประเทศขยายตัว
2. GPM ขยายตัว YoY จากการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ต้นทุน raw material & packaging ปรับตัวลดลง และ ธุรกิจในต่างประเทศขยายตัว
3. SG&A to sales ปรับตัวลดลงจาก economy of scale ด้านกำไรขยายตัว QoQ จากรายได้และ GPM ขยายตัว ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 67-68 ขึ้น +25% และ +20% ตามลำดับ จากการปรับรายได้จากธุรกิจในต่างประเทศ, domestic beverage และ GPM ที่ดีกว่าคาด ทั้งนี้ เราประเมินกำไรสุทธิปี 67 ที่ 3,204 ล้านบาท (+33% YoY) และกำไรปกติ +47% YoY สำหรับปี 68 เราคาดกำไรสุทธิที่ 3,470 ล้านบาท (+8% YoY)
ราคาหุ้น outperform SET +3% ใน 1 เดือนที่ผ่านมา ปัจจุบันเทรดอยู่ที่ PER19.0x น่าสนใจ ยังไม่สะท้อนกำไรปี 67 ที่เติบโตโดดเด่น โดยเราคาดว่าตลาดจะปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 67 ขึ้นจากแนวโน้มรายได้ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึง GPM ที่สูงกว่าคาด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 เม.ย. 67)