นายศุภกิจ งามจิตรเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซิก้า อินโนเวชั่น (ZIGA) เปิดเผยว่าแผนการดำเนินปี 67 บริษัทวางเป้าหมายยอดขายเหล็กเติบโต 15% จากปี 66 ซึ่งมียอดขายอยู่ที่ 770.9 ล้านบาท โดยมุ่งเน้นเพิ่มสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง รวมทั้งลดสัดส่วนกลุ่มลูกค้า B2B และเพิ่มสัดส่วนยอดขายในกลุ่มลูกค้า B2C แทน เนื่องจากกลุ่มลูกค้า B2B สร้างกำไรน้อยกว่า
นอกจากนี้การเติบโตในปี 67 คาดว่าจะได้แรงหนุนการใช้เหล็กจากโครงการโคล้านตัวของรัฐบาลที่มีมูลค่าหลักแสนล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเห็นความชัดเจนของโครงการดังกล่าวภายในปีนี้
สำหรับธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ปัจจุบันไม่มีการลงทุนในธุรกิจดังกล่าวแล้ว โดยตัดค่าเสื่อมจากเหมืองบิทคอยน์ทั้งหมดเมื่อปีที่แล้ว และปัจจุบันบริษัทมีกำลังการขุดบิทคอยน์ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 200 เครื่อง ซึ่งยังไม่มีแผนในการขยายกำลังการผลิต ขณะเดียวกันบริษัทยังไม่มีแผนในการขายเหรียญบิทคอยน์
ขณะที่ปรากฎการณ์ Bitcoin Halving ที่เกิดขึ้นไปเมื่อวันที่ 20 เม.ย. ที่ผ่านมา มองว่าปรากฎการณ์ดังกล่าวทำให้ต้นทุนในการขุดบิทคอยน์เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้มูลค่าของบิทคอยน์จะเพิ่มมากขึ้นอีก ซึ่งตามสถิติคาดว่าจะเกิด New High หลังจากจากนี้อีกประมาณ 5 เดือน
อย่างไรก็ดี บริษัทจะกลับมาดำเนินธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลหรือไม่ จะต้องติดตามสถานการณ์ Bitcoin Halving เสียก่อนและความคุ้มทุนของค่าไฟ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 เม.ย. 67)
Tags: ZIGA, ซิก้า อินโนเวชั่น, ศุภกิจ งามจิตรเจริญ, หุ้นไทย