นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ภายหลังจากสิ้นสุดระยะเวลาลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลิตรละ 1 บาท ซึ่งกระทรวงการคลังไม่ต่ออายุมาตรการดังกล่าวนั้น กรมฯ จะติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิดมากขึ้น โดยได้ขอความร่วมมือให้ผู้ผลิต ตรึงราคาขายสินค้าอุปโภคบริโภคไว้ตามเดิมต่อไปก่อน เพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน ซึ่งได้รับคำยืนยันจากผู้ผลิตแล้วว่ายินดีจะให้ความร่วมมือเต็มที่
“น้ำมันดีเซล คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 40% ของต้นทุนการขนส่ง หากราคาน้ำมันปรับขึ้น จะมีผลให้ธุรกิจบริการขนส่งสินค้า หรือโลจิสติกส์ ได้รับผลกระทบก่อน แต่สินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆ ยังไม่มีผลที่จะทำให้ราคาปรับขึ้น เพราะดีเซลมีสัดส่วนน้อยมากในต้นทุนการผลิต ขณะเดียวกัน ผู้ผลิตสินค้าก็รับปากจะตรึงราคาขาย เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน และจัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้าอย่างต่อเนื่อง” นายวัฒนศักย์ กล่าว
สำหรับผักสดที่ปรับขึ้นราคานั้น พบว่า ราคาปรับขึ้นมาเล็กน้อย เนื่องจากในช่วงสงกรานต์ รถขนส่งสินค้าและแรงงานเก็บผักหยุดยาว ทำให้ผักเข้าสู่ตลาดน้อย และราคาสูงขึ้น อย่างไรก็ดี คาดว่าอีก 1-2 วัน สถานการณ์ราคาจะคลี่คลาย เพราะรถขนส่งสินค้า และแรงงานเริ่มกลับมาทำงานแล้ว
อย่างไรก็ตาม ในช่วงหน้าร้อน สภาพอากาศแล้ง ผักบางชนิดอาจได้รับความเสียหาย ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย ทำให้ราคาปรับขึ้น ซึ่งหากในพื้นที่ใดมีปัญหาขาดแคลนหรือหาซื้อยาก กรมฯ จะเชื่อมโยงสินค้าจากแหล่งผลิตสู่ผู้บริโภค เพื่อลดความเดือดร้อนให้ทันที
ส่วนราคาปุ๋ยเคมีขณะนี้ยังคงทรงตัว หรือปรับขึ้น-ลงในช่วงแคบๆ แม้ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนยังไม่จบ และเกิดความขัดแย้งใหม่ระหว่างอิสราเอล-อิหร่าน โดยล่าสุด ราคาจำหน่ายปุ๋ยเคมีในประเทศ ลดลงอย่างต่อเนื่องจากช่วงเดือนพ.ค. 65 ซึ่งเป็นช่วงที่ราคาปุ๋ยปรับสูงขึ้นสูงสุดประมาณ 40-50% และปริมาณสต็อกปุ๋ย ณ สิ้นเดือน มี.ค. 67 ของไทยอยู่ที่ 1.22 ล้านตัน เพียงพอสำหรับการเพาะปลูกแน่นอน
“หากพบว่ามีการกักตุนหรือจำหน่ายสินค้าในราคาแพงเกินสมควร จะมีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และไม่ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่าย มีโทษสูงสุดปรับไม่เกิน 10,000 บาท หากเกษตรกรไม่ได้รับความเป็นธรรมทางการค้า สามารถแจ้งร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมโทร. 1569 หรือไลน์ @MR.DIT” นายวัฒนศักย์ กล่าว
อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้จำหน่ายปุ๋ยเคมี ขยายระยะเวลาโครงการปุ๋ยราคาถูก จากเดิมที่สิ้นสุดไปแล้วเมื่อมี.ค. 67 โดยเฟส 2 ได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.-30 มิ.ย. 67 มีปริมาณปุ๋ยเข้าร่วมโครงการ 5.1 ล้านกระสอบ รวม 69 สูตร ครอบคลุมการปลูกพืชทุกชนิด ทั้งนาข้าว พืชไร่ พืชสวน และไม้ผล ส่วนลดสูงสุดถึงกระสอบละ 50 บาท คาดว่าจะช่วยลดต้นทุนให้เกษตรกรได้กว่า 280 ล้านบาท โดยเกษตรกรที่สนใจ สามารถสั่งซื้อผ่านสถาบันเกษตรกรที่เป็นสมาชิก
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) ประเมินว่า หากราคาน้ำมันดีเซลปรับสูงขึ้น จะทำให้เงินเฟ้อทั่วไปของไทยปรับเพิ่มขึ้นแน่นอน แต่ไม่มากนัก โดยคาดการณ์ว่า หากดีเซลปรับขึ้นลิตรละ 1 บาท จะทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเพียง 0.08% และหากปรับขึ้น 2 บาท เงินเฟ้อจะปรับขึ้น 0.15%
ส่วนกรณีที่ สนค. ปรับคาดการณ์เงินเฟ้อทั่วไปในปีนี้ใหม่ เป็น 0-1% (ค่ากลาง 0.5%) จากเดิมที่คาด -0.3% ถึง 1.7% (ค่ากลาง 0.7%) นั้น ยังไม่รวมผลกระทบจากการปรับขึ้นราคาดีเซล
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 เม.ย. 67)
Tags: กรมการค้าภายใน, กระทรวงการคลัง, กระทรวงพาณิชย์, น้ำมันดีเซล, ราคาสินค้า, วัฒนศักย์ เสือเอี่ยม